พระจันทร์ที่พวกเรามองเห็นช่วงกลางคืนเวลานี้หากวันหนึ่งไม่มีมันขึ้นมาจะเป็นเยี่ยงไร วันนี้เรา จะพาเพื่อนฝูงๆมาหาคำตอบกัน อย่างที่เข้าใจกันอยู่นั้นว่าโลกของพวกเรามีดาวบริวารเพียงแต่ดวงเดียวซึ่งก็คือพระจันทร์ พระจันทร์รวมทั้งโลกนั้นเกิดขึ้นมาตอนที่ไล่เลี่ยกัน กล่าวได้ว่ามันราวกับเป็นพี่เป็นน้องกันมาตั้งแต่ไหนแม้กระนั้นไร. โดยที่พระจันทร์มีขนาดพอๆกับ 1 ใน 4 ส่วนของโลก แล้วก็ถือได้ว่าเป็นดาวบริวารดวงที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาดาวบริวารของดาวนพเคราะห์ทั้งปวงในระบบสุริยะ ซึ่งการที่มันมีขนาดใหญ่อย่างงี้ทำให้มันย่อมทรงอิทธิพลต่อโลกสิ่งเดียวกัน อย่างเช่น ปรากฎการณ์น้ำขึ้นน้ำลง. ทดลองเล่นสลอต ซึ่งมันจะเป็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นที่ระดับน้ำทะเล จะมีการเพิ่มระดับและก็ลดระดับตามแต่วัน เพราะว่าแรงดึงดูดของโลกกับพระจันทร์ทำให้น้ำรอบๆผิวของโลกที่อยู่ด้านเดียวกับพระจันทร์สูงมากขึ้น ตรงกันข้ามกับน้ำบนผิวอีกฝั่งที่มิได้หันเข้าพบพระจันทร์ก็จะเป็นน้ำลง นอกเหนือจากนี้อิทธิพลที่พระจันทร์มีต่อโลกก็คือแรงดึงดูดของพระจันทร์มันทำให้แกนโลกเอียงถึงราว 23.5 องศา ซึ่งโลกจะเอียงอย่างงี้อยู่เสมอเวลาซึ่งมนุษย์เรานั้นบางครั้งก็อาจจะรู้สึกไม่เป็นผลกระทบอะไรเนื่องจากพวกเรานั้นเคยชินแล้ว. ตั้งแต่ในอดีตกาลถึงปัจจุบันนี้มีนักดาราศาสตร์ต่างหาคำตอบว่าพระจันทร์นั้นเกิดขึ้นมาได้เช่นไร จนถึงเปลี่ยนมาเป็นแนวความคิดที่นานาประการที่ยังหาคำตอบกันมิได้ เนื่องจากยังไม่เคยมีคนไหนกันพิสูจน์ได้ด้วยเหตุว่าเรื่องพวกนั้นมันกำเนิดก่อนจะมีมนุษย์เกิดขึ้นเสียอีก. แต่ว่าสิ่งที่นักดาราศาสตร์และก็นักวิทยาศาสตร์เชื่อมากที่สุดซึ่งก็คือ แนวความคิดการกำเนิดพระจันทร์ที่ว่ามันเกิดมาจากการชนของอุกกาบาตขนาดเท่าดาวอังคารมาชนโลกในตอนที่โลกกำลังสร้างเนื้อสร้างตัวอยู่ ซึ่งขณะนั้นโลกยังร้อนและไม่แข็งมากมาย เมื่อโดนอุกกาบาตก็เลยมีการกระจัดกระจายออกไป โดยองค์ประกอบที่กระจัดกระจายออกไปนั้นไปหลอมละลายรวมกันด้วยแรงดึงดูดกระทั่งเปลี่ยนเป็นพระจันทร์ท้ายที่สุด. ทดลองเล่นสล๊อต ซึ่งแนวความคิดนี้ก็มีข้อสันนษฐานเยอะมากมารองรับว่ามันบางทีอาจจะเป็นจริงและก็น่าไว้ใจที่สุด เพราะเหตุว่าจากการที่ปี คริสต์ศักราช1969 ยาน Apollo11 ได้ส่งนักบินอวกาศไปเหยียบบนพระจันทร์หนแรกและก็คราวนั้นไม่เพียงแต่สร้างประวัติศาสตร์การเยียบพระจันทร์ทีแรกของโลกเพียงแค่นั้น แม้กระนั้นนักบินอวกาศยังเก็บเนื้อเก็บตัวอย่างหินบนพระจันทร์กลับมาพินิจพิจารณาที่โลกของพวกเรา ซึ่งเมื่อเอามาพินิจพิจารณาพบว่าผิวของพระจันทร์นี้มีไอโซโทปของออกสิเจนดังที่เจอบนโลก ก็เลยทำให้นักวิทยาศาสตร์มั่นใจว่า โลกแล้วก็พระจันทร์คงจะเกิดมาจากแหล่งเดียวกัน. สำหรับพระจันทร์นั้นนับได้ว่าเป็นดาวที่มีระยะทางใกล้โลกสูงที่สุด โดยมีระยะทางเพียง 384,403 กม. ถึงแม้แบบอย่างหินบนพระจันทร์นั้นจะละม้ายกับโลก แต่ว่าก็มิได้มีความหมายว่ามนุษย์เราจะไปสามารถไปอยู่บนพระจันทร์ได้เพราะเหตุว่าสถลาเจอนพระจันทร์นั้นไม่มีอะไรที่เอื้อต่อการดำรงชีพของผู้คนเลย. ซึ่งมันยังไม่สามารถที่จะให้พวกเราตั้งรกรากอยู่ได้ปัจจุบันนี้ แต่ว่านักวิทยาศาสตร์ของโลกก็ไม่ยอมแพ้ สร้างสรรค์เทคโนโลยีใหม่ๆที่จะนำไปสร้างอาคารบ้านเรือนตัวอย่างเช่นลูท้องนาร์เกตเวย์ของทุ่งนาซ่า สนานีอวกาศที่ใหม่ที่จะขึ้นไปหมุนรอบพระจันทร์ คล้ายกับสถานีอวกาศนานาประเทศที่เดี๋ยวนี้กำลังโคจรอยู่รอบโลก รวมทั้งบางครั้งอาจจะใช้เป็นจุดแวะพักเพื่อยานอวกาศที่มีภารกิจที่จำเป็นต้องเดินทางไกล…
ระบบประชาธิปไตยบนดาวอังคาร ในแบบอีลอน มัสก์
ด้วยภาวะโลกที่เสื่อมโทรมลงทุกๆวัน ทำให้คนจำนวนไม่น้อยเริ่มนึกถึงกลยุทธ์การย้ายไปอยู่บนดาวดวงอื่น ซึ่งพวกเราก็จะมองเห็นได้จากแผนการต่างๆอย่างเช่น แผนการแข่งขันยานอวกาศสำหรับย้ายคนไม่ใช่น้อยขึ้นอวกาศ ที่มีผู้เข้าร่วมแข่งขันเป็นบริษัทขนส่งยักษ์ใหญ่อย่าง SpaceX รวมทั้ง Boeing, ภารกิจมาร์ส วัน (Mars One) ที่ตระเตรียมส่งคนขึ้นไปทดสอบตั้งภูมิลำเนาบนดาวอังคารในปี 2023, ตลอดจนงานศึกษาวิจัยต่างๆอีกเพียบเลยที่สร้างสรรค์เครื่องมือและอุปกรณ์สำหรับช่วยในด้านสำหรับอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่จะย้ายขึ้นไปอยู่บนดาวดวงอื่น อย่างบ้านที่สร้างมาจากเชื้อราหรือเยี่ยว ฯลฯ. พูดได้ว่าในเวลานี้พวกเราก็แทบมีพร้อมแทบทุกอย่างให้สามารถย้ายขึ้นไปอยู่บนดาวดวงอื่นได้แล้ว แต่ว่าสิ่งที่พวกเราจะต้องคิดถัดจากนี้เป็น หากว่าคนไม่ใช่น้อยย้ายขึ้นไปอยู่บนดาวดวงใหม่แล้วล่ะก็ พวกเราจะใช้กฏหมายแบบไหนควบคุมการกระทำของเค้าเหล่านั้น และก็คนใดเป็นคนออก. ทดลองเล่นสลอต เพราะว่าหากไม่มีกฏเกณฑ์ด้วยกัน มนุษย์ก็คงจะเอารัดเอาเปรียบกัน และยังรวมไปถึงชิงทรัพย์ฆ่ากันเป็นว่าเล่นอย่างแน่แท้ ด้วยเหตุฉะนี้ อีลอน มัสก์ ผู้ครอบครองบริษัท SpaceX บริษัทขนส่งอวกาศก็เลยได้เสนอการปกครองที่ชื่อว่า “ระบบประชาธิปไตยโดยตรง” (Direct democracy) ขึ้นมา เพื่อเอาไว้ใช้บนดาวอังคาร แม้กระนั้นระบอบนี้จะมีรายละเอียดคืออะไร มาติดตามดูไปพร้อมเพียงกันนะคะ. เรื่องระบบประชาธิปไตยโดยตรงนี้ อีลอน มัสก์เคยบอกเอาไว้ภายในงาน Code Conference 2016 โดยเขาได้ชี้แจงแนวทางของมันไว้ว่า เมื่อพวกเราทุกคนย้ายไปอยู่บนดาวอังคารแล้ว พวกเราต้องมีระบอบที่พลเมืองทุกคนสามารถโหวตเพื่อสร้างกฏหมายเองได้ โดยไม่ต้องผ่านผู้แทนนักการเมืองให้มาบอกแทนสามัญชนอีกครั้ง ซึ่งระบบนี้จะสามารถลดปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อราษฎร์บังหลวงของนักการเมืองได้ด้วย อีลอน มัสก์ยังได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ระบอบนี้จะให้โอกาสให้ทุกคนได้โอกาสให้ความคิดเห็นแล้วก็มีส่วนร่วมสำหรับเพื่อการร่างกฏหมาย ถ้าหากว่ากฏหมายไหนได้รับคะแนนเสียงอนุมัติจากประชากรมากยิ่งกว่า 60…
ข้อบังคับเกี่ยวกับต่างดาวที่พวกเรายังไม่ทราบ
ข้อบังคับเกี่ยวกับต่างดาวที่พวกเรายังไม่รู้aเมื่อสิ่งมีชีวิตบนโลกเริ่มมีมากไม่น้อยเลยทีเดียวขึ้น การดำเนินชีวิต ของผู้คนแล้วก็สิ่งมีชีวิตอื่นๆบนโลกนั้นล้วนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่มีความเกี่ยวข้องต่อกัน โลกก็เลยจำเป็นจะต้องมีข้อบังคับเพื่อยึดมั่นปฏิบัติให้สังคมได้ก้าวเดินต่อไปตามข้อกำหนดและก็ลดความระส่ำระสายที่จะเกิดขึ้น. แม้กระนั้นคนไหนกันแน่จะไปทราบว่า ในอวกาศ หรือสิ่งมีชีวิตใดก็ตามที่มาจากอวกาศ ถ้าหากเข้ามาเกี่ยวโยงกับโลกแล้ว ก็ต้องยึดมั่นข้อตกลงรวมทั้งข้อกำหนดกฎหมายของโลกเช่นกัน วันนี้ จะพาเพื่อนฝูงๆมาดู ข้อบังคับเกี่ยวกับต่างดาวแล้วก็อวกาศ ซึ่งพวกเราแน่ใจว่าสหายๆบางบุคคลบางทีก็อาจจะยังไม่เคยรู้แน่นอนเมื่อก่อนจะไปรับดูอย่าลืมกด Like กด Share รวมทั้งกดติดตามเราด้วยนะคะ. ทดลองเล่นสลอต เรื่องมนุษย์ดาวอื่น สิ่งมีชีวิตจากต่างดาวหรือเรื่องราวต่างๆในอวกาศ เพื่อนพ้องๆบางทีอาจรู้สึกว่ามันเกิดเรื่องไกลตัวและก็บางทีก็อาจจะไม่ใช่เรื่องที่คงจะให้ความใส่ใจกับมันมากสักเท่าไรนัก แม้กระนั้นทางยูเอ็นและก็ที่ประชุมพรรคคองเกรสที่สหรัฐฯมิได้ปล่อยทิ้งเรื่องราวกลุ่มนี้ไป เพราะว่าพวกเขาได้ร่างกฎหมายที่ครอบคลุมเกี่ยวกับการพบเจอมนุษย์ดาวอื่นหรือการที่มนุษย์ดาวอื่นเดินทางมายังโลกของพวกเรา รวมถึงการที่นักบินอวกาศได้ขึ้นไปพบเห็นกับมนุษย์ดาวอื่นหรืออารยธรรมอื่นในอวกาศ โดยเราได้สรุปข้อกำหนดกฎหมายที่หลักๆมาให้เพื่อนฝูงๆดังต่อไปนี้. 1.การไปตั้งอาณานิคมบนดาวดวงอื่นพูดได้ว่าการตั้งอาณานิคมบนดาวดวงอื่นนั้นเป็นสิ่งที่นักดาราศาสตร์มุ่งหมายที่จะเผชิญเพื่อหาที่อยู่อาศัยใหม่ที่ละม้ายกับโลก แต่ว่าเพื่อนพ้องๆทราบหรือเปล่าว่า ถ้าเกิดพวกเราเจอดาวดวงที่พวกเราจะไปสร้างอาณานิคมได้นั้น มันย่อมมีตัวบทกฎหมายที่พักอยู่ซึ่งตามกฎหมายเจาะจงไว้ว่า ดวงดาวต่างๆที่พวกเราศึกษาและทำการค้นพบแล้วก็จะไปสร้างอาณานิคมนั้นจะไม่มีประเทศไหนเป็นเจ้าของ. เพราะดาวดวงนั้นจะเป็นของมนุษย์บนโลกทุกคน แต่ว่าการที่จะนำข้อบังคับจากประเทศไหนไปใช้นั้นขึ้นกับว่า หน่วยงานด้านอวกาศของประเทศไหนได้ไปส่งมนุษย์ไปตั้งภูมิลำเนาที่ดาวดวงนั้นๆก่อน จะได้นำข้อบังคับไปใช้สำหรับเพื่อการดำรงชีพในดวงดาวดวงนั้นด้วย. 2.กฎการพบเจอมนุษย์ดาวอื่นตามข้อสัญญาที่ได้มีการระบุรวมทั้งทำเป็น ข้อตกลงอวกาศ โดยมี 125 ประเทศร่วมเซ็นชื่อ ได้เจาะจงเอาไว้ว่าถ้าเกิดมีการตรวจสอบอวกาศ ดวงดาว หรือพระจันทร์ รวมทั้งเจอสิ่งที่เปลี่ยนไปจากปกติ และก็เป็นสิ่งที่แปลกใหม่ รวมทั้งการเจอสิ่งมีชีวิตจากต่างดาว คนที่เจอจำเป็นต้องรายงานให้กับยูเอ็นโดยทันทีข้างหลังการศึกษาค้นพบ. 3.กฎการเคลื่อนที่ใกล้แหล่งน้ำในดาวดวงอื่นด้วยเหตุว่าการศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัยและก็การวิเคราะห์จากการสำรวจดวงดาวต่างๆพบว่าน้ำน่าจะเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตบนต่างดาว ก็เลยมีข้อบังคับควบคุมออกมาว่า ยังไม่อนุญาตให้เทคโนโลยีจากบนโลกไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ตรวจหรือยานอวกาศเข้าไปใกล้รอบๆนั้น เนื่องจากว่าอาจมีการแปดเปื้อนจากสิ่งมีชีวิตบนโลกที่ติดไปพร้อมกับเครื่องใช้ไม้สอยต่างๆไปยังแหล่งน้ำนั้นจนกระทั่งมีการกลายพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต จนกระทั่งไม่บางทีอาจเสาะหาได้ว่า สิ่งมีชีวิตที่จริงจริงในรอบๆเป็นยังไงกันแน่. ทดลองเล่นสล๊อต 4.กฎที่ว่าด้วยมนุษย์ดาวอื่นก็คือมนุษย์โดยชอบด้วยกฎหมายกำหนดไว้ว่ามนุษย์ดาวอื่นนั้นเปรียบมนุษย์ทั่วๆไป โดยเหตุนี้การกระทำต่อมนุษย์ต่างดาวก็จะต้องปฏิบัติเหมือนกันกับมนุษย์โลก…
พระจันทร์ปัญหาเข้ามาโคจรใกล้โลก
เมื่อเร็วๆนี้ได้มีประกาศจากองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ(สหรัฐอเมริกา)ว่าเจอวัตถุเหมือนพระจันทร์เข้ามาโคจรในรอบๆใกล้กับโลกของพวกเราแถมยังมาหมุนรอบโลกของพวกเราอีกด้วย หรือวัตถุปัญหานี้จะเป็นพระจันทร์ดวงที่ 2 ของโลกกันแน่ วันนี้เรา จะพาสหายๆมาทำความรู้จักกับวัตถุนี้กัน เมื่อก่อนจะไปรับดู อย่าลืมกด Like กด Share และก็กดติดตามด้วยนะคะ คราวหนึ่งนานมาแล้วในสมัยที่จักรวาลเริ่มที่จะเกิดทุกสิ่งในเอกภพ โลกได้เกิดขึ้นมาพร้อมๆกับพระจันทร์ที่เป็นบริวารของโลก แต่ว่าในสมัยก่อนนั้นนักดาราศาสตร์ได้ตั้งข้อสมมติฐานว่า พระจันทร์ของโลกนั้นอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมี 2 ดวง แต่ว่าด้วยแรงเหวี่ยงที่ร้ายแรงของอนุภาพการปะทุในครั้งที่เกิดจักรวาลทำให้พระจันทร์อีกทั้ง 2 ดวงนั้นชนกันแล้วก็หลอมรวมกันแปลงเป็นดวงเดียวกันจนถึงแปลงเป็นพระจันทร์ที่พวกเราแลเห็นช่วงเวลากลางคืนในทุกวันนี้ ทดลองเล่นสลอต ข้อสมมติที่เหล่านักดาราศาสตร์ได้กระทำการตรวจสอบนั้นพบว่ามีความน่าจะเป็นไปได้ที่พระจันทร์ของโลกจะเคยมี 2 ดวงมาก่อน โดยอีกทั้ง 2 มีขนาดที่ต่างกัน ซึ่งดวงหนึ่งมีขนาดเล็กและก็เย็นตัวลงแล้ว ส่วนอีกดวงหนึ่งเป็นดวงใหญ่ยังมีพลังงานเเละความร้อนรวมทั้งลาวาใต้ผิวดิน เมื่อพระจันทร์ทั้งยัง 2 ดวงโคจรมาพบกันและก็มีการชนกันด้วยพลังงานบางสิ่ง ก็ให้มีการหลอมรวมกันแปลงเป็นหนึ่ง โดยดวงเล็กที่เย็นตัวแล้ว เมื่อมีการจนถึงก็เลยกระจัดกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยเกาะอยู่บนพระจันทร์ดวงใหญ่ แล้วก็พระจันทร์ดวงใหญ่เมื่อมีการชนที่ร้ายแรงกระทั่งทำให้ลาวาใต้พื้นดินล้นออกมาฉาบเศษวัตถุที่ขจุยขจายจากการชน กระทั่งเปลี่ยนเป็นพระจันทร์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ข้อสมมตินี้สหายๆบางบุคคลบางทีอาจมีความคิดว่ามันเกิดขึ้นใช่หรือไม่ หรือนักดาราศาสตร์เพียงแค่คิดกันไปเอง ทดลองเล่นสล๊อต มีการเกื้อหนุนข้อสมมตินี้ด้วยแผนการ Apollo ต่างๆขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ(สหรัฐอเมริกา)ที่ขึ้นไปตรวจสอบพระจันทร์แล้วก็เก็บเนื้อเก็บตัวอย่างหินบนพระจันทร์กลับมายังโลกเพื่อทำพินิจพิจารณาพบว่าหินบนพระจันทร์นั้นมีสารที่เรียกว่า ครีป (Kreep) ที่มี โพแทสเซียม ธาตุฟอสฟอรัส รวมทั้งธาตุกรุ๊ปแรร์เอิร์ท โดยครีปเป็นสารที่เกิดมาเพื่อทำให้แมกมาดำรงอยู่ในภาวะของเหลว เป็นสารต่อต้านการตกผลึกของแมกมา ซึ่งสอดคล้องกับข้อสมมติของนักดาราศาสตร์ที่พวกเราได้บอกไปข้างต้นว่ามีลาวาแล้วก็แมกมาออกมาภายหลังจากการชนกันของพระจันทร์ 2 ดวง…
รูปติด UFO จากภารกิจปราบพระจันทร์
เมื่อกล่าวถึงเรื่องราวของต่างดาวหรือ UFO มันดูเหมือนเกิดเรื่องที่ไกลตัวเรามากมายๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อขณะที่มีคนใดสุดแล้วแต่ออกมาประกาศว่าพวกเขานั้นได้เจอ UFO คนโดยมากชอบไม่เชื่อ พระจันทร์ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ชาวโลกของพวกเราชอบไปเยี่ยมอยู่เป็นประจำรวมทั้งมักมีผู้คนที่มองเห็นวัตถุอะไรที่พิศดาร แล้วการไปเยี่ยมพระจันทร์ในแต่ละครั้ง มนุษย์เราเจออะไรที่น่าสงสัยมาบ้าง. วันนี้เรา จะพาเพื่อนพ้องๆมาดูภาพที่คนจำนวนไม่น้อยมั่นใจว่ามันเป็น UFO ที่เจอบนพระจันทร์ แม้กระนั้นขอเกริ่นไว้ก่อนเลยจ้ะ ว่าประเด็นนี้จำเป็นต้องใช้วิจารณญาณสำหรับเพื่อการรับดู ในที่สุดสหายๆจะมั่นใจว่ามันมีอยู่ใช่หรือไม่ก็สุดแต่การตัดสินใจของเพื่อนพ้องๆนะคะ เมื่อก่อนจะไปรับดู อย่าลืมกด Like กด Share และก็กดติดตามด้วยนะคะ. มาเริ่มกันที่ปี คริสต์ศักราช 1969 กันก่อน ในปีนั้นมีการกระทำภารกิจบนดาวอังคารโดยยาน Apollo 10 ซึ่งได้พานักบินอวกาศขึ้นไปยังฟ้าแล้วก็บินเหนือผิวโลกโดยประมาณ 77,000 กม. โดยมีจุดหมายการเดินทางเพื่อไปยังพระจันทร์ กลางทางนั้นเอง พวกเขาถ่ายภาพได้ว่ามีวัตถุทางอวกาศลึกลับ ซึ่งนักบินพวกนั้นเรียกวัตถุลึกลับนั้นว่า “ซานตาคลอส” เพราะเหตุว่าพวกเขามั่นใจว่ามันบางทีอาจจะเป็นมนุษย์ดาวอื่นที่กำลังจะออกเดินทางมาช่วยเหลือพวกเขาให้ทำภารกิจไปตรวจพระจันทร์ได้เสร็จ. ทดลองเล่นสลอต สองเดือนต่อมายานอวกาศขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ(สหรัฐอเมริกา)ได้ไปทำหน้าที่เดียวกัน มันก็คือ Apollo 11 คราวนั้นได้สร้างประวัติศาสตร์ให้กับโลกโดยเป็นครั้งแรกที่มนุษย์ไปเหยียบพระจันทร์ แม้กระนั้นในระหว่างการกระทำภารกิจนั้น นักบินอวกาศได้พบแสงบนพระจันทร์เขยื้อนไปตามดวงดาว ซึ่งยาวนานหลายปีต่อมา บัซ อัลดริล หนึ่งในนักบินอวกาศภารกิจ Apollo 11 นั้น ได้นำภาพลับมาเผยแพร่กับรายการๆหนึ่ง ซึ่งเขากล่าวว่า เขาแน่ใจว่าควรจะมีมนุษย์ดาวอื่นอยู่บนพระจันทร์…
-
Recent Posts
Archives
Categories
Tags
กิจการอวกาศ ขยะอวกาศ จรวด จูปิเตอร์ 5 ดวงจันทร์ ดวงจันทร์แกนีมีด ดวงอาทิตย์ ดาวบริวาร ดาวพฤหัสบดี ดาวพุธ ดาวยูเรนัส ดาวศุกร์ ดาวหาง ดาวอังคาร ดาวเกตุ ดาวเคราะห์ ดาวเคราะห์แคระ ดาวเทียม ดาวเนปจูน ดาวเสาร์ ต่างดาว ทฤษฎี ทฤษฎีทางดาราศาสตร์ นักบินอวกาศ นักวิทยาศาสตร์ นาซา บิกแบง ยานสำรวจ ยานอวกาศ ยูโรปา ระบบสุริยะ ลี้ลับ วัตถุขนาดใหญ่ สำรวจอวกาศ ห้วงอวกาศ อวกาศ อาคันตุกะ เอเลี่ยน แม่เหล็กไฟฟ้า แรงโน้มถ่วง แอมัลเธีย โบราณ โลก ใจกลางระบบสุริยะ ไททัน