น่าเชื่อว่าผู้คนบนโลกนี้คงจะไม่มีผู้ใดไม่เคยทราบดาวศุกร์ ดาวที่เปรียบได้กับกับแฝดของโลก และก็ยังมีอดีตกาลที่ละม้ายกับโลกของพวกเรา ซึ่งเป็นได้ว่าถ้าหากดาวศุกร์มิได้พบกับเหตุการณ์สภาวะปรากฏการณ์เรือนกระจกมาก่อน กระทั่งทำให้อุณหภูมิผิวจะต้องร้อนระอุ ปัจจุบันนี้ดาวศุกร์อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีสิ่งมีชีวิตราวกับโลกก็เป็นได้ หนึ่งสิ่งที่ผู้คนยังไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับดาวศุกร์ ก็คือพายุหมุน ใช่เเล้วจ้ะ บนดาวศุกร์ก็มีพายุหมุนอย่างเดียวกัน รวมทั้งยิ่งตอนนี้มันมีความรุนเเรงมากเพิ่มขึ้นลมพายุนี้มันจะเป็นเยี่ยงไร และก็มีผลกระทบถึงดาวศุกร์มากแค่ไหน เรา จะพาทุกคนไปค้นหากันจ้ะ เมื่อก่อนจะไปรับดู อย่าลืม กด Like กด Share และก็กดแจ้งเตือนด้วยนะคะ
.
พวกเรามาทวนกันก่อนว่าดาวศุกร์เป็นดาวนพเคราะห์ลำดับที่ 2 ของระบบสุริยะ ซึ่งมีขนาดที่ใกล้เคียงกับโลกของพวกเราซึ่งอยู่ในลำดับที่ 3 จากดวงตะวัน แม้กระนั้นดาวศุกร์นี้เองมีวิถีโคจรที่ต่างไปจากโลก มันก็คือดาวศุกร์จะหมุนรอบพระอาทิตย์ในลักษณะเกือบเป็นวงกลม ในตอนที่ดาวพระเคราะห์ในระบบสุริยะดูเหมือนจะทุกดวงนั้นหมุนรอบดวงตะวันเป็นวงรี
.
รวมทั้งดาวศุกร์นี้เองก็ยังจัดให้เป็นดาวที่มีความสว่างที่สุดในบรรดาดาวนพเคราะห์ดวงอื่นๆเมื่อดูจากบนพื้นแผ่นดินที่พวกเราจะสามารถแลเห็นดวงตะวันหรือพระจันทร์ได้อย่างเห็นได้ชัด พวกเราก็จะยังมองเห็นดาวศุกร์ที่สุกสว่างกว่าดาวดวงไหน โน่นก็เป็นด้วยเหตุว่าดาวศุกร์นั้นมีเส้นทางโคจรใกล้ดวงตะวันมากยิ่งกว่าโลก และก็มีมุมห่างจากดวงตะวันไม่เกิน 47.8 องศา ซึ่งพวกเราจะแลเห็นดาวศุกร์ได้ในเวลาค่ำและก็รุ่งสาง ผู้คนบนโลกต่างตั้งชื่อให้ดาวศุกร์ว่า ดาวศุกร์ หรือ ดาวประกายพรึก แม้กระนั้นคนใดกันจะไปทราบว่าภายใต้ความสุกสว่างแล้วก็งดงามของดาวศุกร์ที่ระยิบช่วงกลางคืน ในรอบๆผิวของมันก็กำเนิดลมพายุอย่างเดียวกัน
.
ดาวศุกร์มีพายุหมุนที่เกิดขึ้นเสมอๆ กล่าวได้ว่าเป็นลมพายุที่อยู่ถาวรรวมทั้งแปลงเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของดาวศุกร์ไปแล้ว แม้กระนั้นลมพายุนี้ก็ต่างจากลมพายุทั่วๆไปเนื่องจากว่าแต่ละลมพายุนั้นจะมี 2 ตาลมพายุ รวมทั้งเมื่อมันหมุนมาคู่กัน ก็จะแปลงเป็นมี 4 ตาลมพายุ เมื่อลมพายุใกล้กันกระทั่งเชื่อมกัน จะเปลี่ยนเป็นลมพายุตัว S พายุหมุนกลุ่มนี้ชอบก่อตัวขึ้นแล้วก็เสื่อมสภาพไปในทุกๆ2 วัน แล้วก็วนกลับมาก่อตัวใหม่รวมทั้งสลายไปอย่างงี้เรื่อย
.
ลมพายุที่เกิดบนดาวศุกร์นั้นมีขนาดใหญ่กว่าบนโลกถึง 4 เท่า ซึ่งก่อตัวมากถึง 20 กิโล พูดได้ว่าสูงขึ้นมากยิ่งกว่ายอดดอยเอเวอเรสต์เสียอีก เพียงแค่พวกเรามองเห็นลมพายุที่ก่อตัวบนโลกทำความเสียหายให้กับมนุษย์แล้วก็ประเทศชาติแล้ว ก็มีความรู้สึกว่าลมพายุบนโลกนั้นน่าสยอง แม้กระนั้นหากไปเทียบกับดาวศุกร์ ที่ลมพายุมีความร้ายแรงกว่าหลายเท่า ก็คาดได้ว่าไม่น่าจะมีสิ่งมีชีวิตอยู่บนนั้นได้ เเต่ถ้าหากมีอยู่จริงสิ่งมีชีวิตนั้นอาจจะจะต้องปรับนิสัยอย่างเร็วเพื่อดำเนินชีวิตอยู่ภายใต้เหตุการณ์ที่ทารุณแบบนั้น
.
ไม่กี่ปีที่ล่วงเลยมานี้นักดาราศาสตร์พบว่าลมแล้วก็ลมพายุที่พัดบนดาวศุกร์นั้นมีความร้ายแรงรวมทั้งมีความเร็วมากยิ่งขึ้น โดยจากการสังเกตการเปลี่ยนตำแหน่งของก้อนเมฆที่ระดับความสูง 70 กิโล จากผิวดาวศุกร์มาเป็นระยะเวลา 10 ปีของดาวศุกร์ หรือพอๆกับ 6 ปีของโลก นักดาราศาสตร์ได้บันทึกผลของตำแหน่งรวมทั้งเอามาคำนวณ พินิจพิจารณา เพื่อกล่าวโทษเร็วของลมรวมทั้งลมพายุ
.
ซึ่งพบว่าบนดาวศุกร์นั้นมีความเร็วลมที่เพิ่มความรุนเเรงรวมทั้งความเร็วเพิ่มมากขึ้นซึ่งได้พุ่งสูงขึ้นยิ่งกว่าเดิมจนถึงมาถึง 400 กม.ต่อชั่วโมง โดยถ้าเกิดย้อนไปเมื่อขณะที่ยานวีนัสเอ็กเพลสได้มีภารกิจเดินทางไปตรวจสอบดาวศุกร์ ในปี 2549 และก็ยานได้ได้ความเร็วลมของดาวศุกร์ได้ราว 300 กิโลต่อชั่วโมง ซึ่งจะมีความเห็นว่าตอนนี้ที่นักดาราศาสตร์ดูได้ ความเร็วลมบนดาวศุกร์มากขึ้นมาถึง 100 กิโลต่อชั่วโมงอย่างยิ่งจริงๆ
.
อีกอร์ ฮากักตุนเซฟ จากสถาบันวิจัยอากาศในมอสโก ได้ศึกษาเล่าเรียนความเร็วลมอันก่อเกิดลมพายุบนดาวศุกร์จากการเปลี่ยนตำแหน่งจุดพิจารณาในแต่ละเฟรมด้วยการสังเกตทางสายตาและก็พบว่ามีการแปลงตำแหน่งถึง 45,000 จุด แม้กระนั้นเมื่อใช้เครื่องคอมพิวเตอร์วัด ก็เลยพบว่าตามที่เป็นจริงแล้วมันมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งถึง 350,000 จุด ซึ่งอีกอร์ ฮากักตุนเซฟ ถึงกับเอ่ยว่า “ความเคลื่อนไหวความเร็วลมของดาวศุกร์ที่มากมายขนาดนี้ไม่เคยมีการบันทึกมาก่อนรวมทั้งยังไม่รู้จักว่ามันมีต้นเหตุที่เกิดจากอะไร”
.
Image converted using ifftoany
นอกเหนือจากสถาบันวิจัยอากาศในมอสโกจะเล่าเรียนความเร็วลมบนดาวศุกร์แล้วหลังจากนั้นก็ยังมีนักดาราศาสตร์ของญี่ปุ่นออกมากระทำการพินิจพิจารณาเช่นกัน ซึ่งก็พบว่าส่งผลลัพธ์ออกมาใกล้เคียงกันมากมายๆซึ่งจากการวิเคราะห์จากมากมายสถาบันพบว่า เว้นแต่ความเร็วลมที่มากขึ้นเรื่อยๆมันยังมีการเปลี่ยนตรงเวลาแคว้นในทุกๆวัน รวมทั้งเปลี่ยนตามคาบหมุนของดาวศุกร์ แนวทางการทำมุมกับพระอาทิตย์ และก็การเกิดขึ้นในรอบๆใกล้เส้นอีเควเตอร์
.
ซึ่งนักดาราศาสตร์คาดว่ามันคงจะมีเหตุมีผลอะไรสักอย่างที่ทำให้กระแสลมของลมพายุทวีความร้ายแรงขึ้น แม้กระนั้นก็ยังไม่สามารถที่จะหาคำตอบได้อย่างแท้จริง ซึ่งถือว่ายังคงเป็นปัญหารวมทั้งเป็นความลึกลับของระบบสุริยะที่ยังหาคำชี้แจงมิได้ และก็ในอนาคตจะกำเนิดอะไรขึ้นอยู่กับดาวศุกร์ ความเร็วมลมของลมพายุที่เจอนี้จะนำมาซึ่งการทำให้ดาวศุกร์นั้นจำต้องเปลี่ยนครั้งใหญ่อีกไหม ก็เป็นหน้าที่ของนักดาราศาสตร์จำต้องไปพบคำตอบและก็พิสูจน์มา เนื่องจากว่าดาวศุกร์นั้นเพียงแค่มีการเปลี่ยนครั้งใหญ่มาแล้วหนึ่งครั้ง หากสถานะการณ์เดิมขึ้นอีดคาดว่าอนาคตพวกเราบางทีอาจจะมองไม่เห็นดาวศุกร์ที่สุกสว่างเสมือนที่พวกเรามองเห็นทุกคืนก็เป็นได้
.
แล้วเพื่อนพ้องๆละขา มีความรู้สึกว่ากำเนิดอะไรสังกัดดาวศุกร์ แล้วก็ลมพายุที่ร้ายแรงขึ้นนี้จะทำให้ดาวศุกร์คืออะไรในอนาคต