อย่างที่พวกเรารู้กันดีว่า โลกของพวกเรานั้นอยู่ในระบบสุริยะที่มีดวงอาทิตย์ซึ่งเป็นดาวฤกษ์ เป็นใจกลาง รวมทั้งระบบสุริยะนั้นก็มีดาวเคราะห์ทั้งหมดทั้งปวง 9 ดวง หมุนรอบพระอาทิตย์ แต่ว่าในตอนนี้ดาวพลูโตดาวนพเคราะห์ดวงที่ 9 ของระบบสุริยะได้ถูกนักวิทยาศาสตร์ลงความคิดเห็นว่า มันไม่มีคุณลักษณะที่จะเป็นดาวพระเคราะห์อีกต่อไป แล้วเพื่อนฝูงๆมีความคิดว่า ดาวดวงไหนเหมาะสมจะเป็นดาวพระเคราะห์ดวงที่ 9 แล้วก็ดวงที่ 10 ต่อจากดาวพลูโต
ในกาลครั้งหนึ่งเราได้เคยเสนอเรื่อง planet x หรือดาวนพเคราะห์ดวงที่ 9 กันแล้ว วันนี้ พวกเราจะพาเพื่อนพ้องๆมาดูดาวนพเคราะห์ดวงที่ 10 กันบ้าง ว่ามันจะคืออะไร และก็มันจะได้โอกาสไหมที่กำลังจะได้รับการยืนยันจากนักวิทยาศาสตร์ให้มันได้เปลี่ยนเป็นดาวพระเคราะห์ของระบบสุริยะดวงต่อไป เมื่อก่อนจะไปรับดู อย่าลืมกดไลค์ กดซึมซับสไครป์ รวมทั้งกดกระดิ่งแจ้งเตือน เพื่อที่เพื่อนพ้องๆจะไม่พลาดการรับดูคราวถัดไป
สำหรับเรื่องราวในจักรวาลถือได้ว่าเป็นวิชาความรู้ฐานรากด้านวิทยาศาสตร์ที่ทุกคนจะต้องเคยผ่านการศึกษาเล่าเรียนมาทั้งยังในระดับประถมแล้วก็มัธยม ซึ่งพวกเราจะรู้เพียงแค่พื้นฐานเพียงแค่นั้นว่า ในระบบสุริยะของพวกเราประกอบไปด้วยดาวนพเคราะห์แล้วก็ดาวฤกษ์ ดาวฤกษ์ก็คือดาวที่มีแสงไฟในตนเอง ส่วนดาวพระเคราะห์ไม่มีแสงไฟในตนเองแถมยังจำเป็นต้องหมุนรอบดาวฤกษ์ อาทิเช่นในระบบสุริยะของพวกเราก็มีดวงอาทิตย์เป็นดาวฤกษ์สุกสว่าง ให้พลังงานกับระบบสุริยะ ส่วนดาวพระเคราะห์ที่หมุนรอบพระอาทิตย์ ก็มี ดาวพุธ ดาวศุกร์ โลก ดาวอังคาร ดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ ดาวเนปจูน ดาวยูเรนัส และก็ดาวพลูโต
แต่ว่าเมื่อพวกเราโตขึ้นแล้วก็ทราบดีว่า การที่ดาวสักดวงหนึ่งจะได้รับการตั้งให้เป็นดาวฤกษ์รวมทั้งดาวพระเคราะห์ มันมิได้มีคุณลักษณะเท่านั้น มันมีเรื่องมีราวที่ประณีตบรรจงกว่านั้นมาก จากอดีตกาลถึงเดี๋ยวนี้ วิชาความรู้ด้านจักรวาลในโลกของพวกเรานั้นมีเยอะขึ้นเรื่อยๆอย่างไม่สิ้นสุด เนื่องมาจากการพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับในการตรวจสอบอวกาศ ทำให้พวกเราสามารถใกล้จักรวาลได้ใกล้แค่เอื้อม แล้วก็มันยังเป็นเหตุให้พวกเรานั้นเปิดหูเปิดตาแล้วก็เจอความเป็นจริงอีกเพียบเลยในจักรวาลที่นี้
ก่อนหน้าไม่เคยมีคนใดกันตั้งเรื่องที่น่าสงสัย ว่าดาวฤกษ์นั้นควรมีคุณลักษณะยังไง เกิดมาได้ยังไง รวมทั้งดาวพระเคราะห์ต้องเป็นดาวแบบไหน แต่ว่าเมื่อในวันหนึ่งมีการตรวจภารกิจหนึ่งไปพบดาวดวงหนึ่งซึ่งอยู่ห่างจากโลกของพวกเราออกไป มันมีขนาดใหญ่กว่าดาวพลูโต ก็เลยทำให้นักวิทยาศาสตร์นำกลับมามีความคิดว่า พวกเขาจะสามารถเรียกดาวดวงนี้ว่าดาวนพเคราะห์ได้หรือเปล่า แล้วก็หากมันใหญ่มากยิ่งกว่าดาวพลูโต มันก็น่าจะเป็นดาวพระเคราะห์เช่นกัน
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ความข้องใจนี้นำมาซึ่งการก่อให้เกิดการปรึกษาครั้งใหญ่ภายใต้การสัมมนาคณะบุคคลใหญ่ที่สมาพันธ์ศิลปินศาสตรสามายากล (IAU General Assembly)ในกรุงปราก เมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็ก ที่มีนักดาราศาสตร์กว่า 2,500 คน มาร่วมรวมทั้งหาบทสรุปของคำจำกัดความคำว่า ดาวพระเคราะห์ ซึ่งสำหรับการสัมมนาคราวนี้มีหัวข้อการที่จะใส่ดาวที่ศึกษาและทำการค้นพบใหม่และก็มีลักษณะเหมือนดาวนพเคราะห์ ให้แปลงเป็นดาวพระเคราะห์ในระบบสุริยะ
แต่ว่าเมื่อนักดาราศาสตร์นักเรื่องราวศาสตรได้ด้วยกันพินิจพิจารณา แล้วก็เสนอคำอธิบายศัพท์ของดาวนพเคราะห์ให้ห้องประชุมได้โหวตเห็นด้วย ว่าดาวนพเคราะห์นั้น ควรเป็นวัตถุที่มีแรงโน้มถ่วง แล้วก็หมุนรอบพระอาทิตย์ โดยจะต้องไม่เป็นดาวบริวารของดาวดวงไหน
นอกนั้นยังให้คำจำกัดความอีกว่าการหมุนรอบดวงตะวันควรต้องโคจรในราบเดียวกันเป็นวงกลมหรือใกล้เคียงกับวงกลม
ซึ่งแน่ๆว่าการใคร่ครวญในประเด็นนี้ห้องประชุมไม่รองรับเพราะเหตุว่ามันจะก่อให้ระบบสุริยะของพวกเรานั้นมีดาวเคราะห์เพิ่มมาถึงอีก 12 ดวง
รวมทั้งยังมีนักดาราศาสตร์ชื่อ ไมค์ บราวน์ เสนออีกว่าถ้าสารภาพคำอธิบายศัพท์นี้จะมีผลให้มีดาวเคราะห์ที่มีคุณลักษณะเพิ่มเติมอีก 53 ดวง ซึ่งมันมากเกินกว่าที่พวกเราจะยอมรับได้ เขาก็เลยได้เสนอว่า พวกเราควรจะลดสถานภาพดาวพลูโตลงเป็นเพียงแค่ดาวนพเคราะห์เล็กแกร็น หรืออีกทางหนึ่งเป็น เสนอว่าให้ดาวที่ใหญ่มากยิ่งกว่าดาวพลูโตแค่นั้นก็เลยจะนับว่าเป็นดาวพระเคราะห์ ซึ่งถ้าเกิดปฏิบัติตามทางที่บราวน์บอกนี้ จะก่อให้พวกเราได้ดาวพระเคราะห์เพิ่มมาอีก 1 ดวง แปลงเป็น 10 ดวง
ซึ่งการสัมมนาคราวนี้สรุปในที่สุดก็คือการตัดดาวพลูโตออกมาจากเคราะห์ แล้วก็ให้ดาวพลูโตนั้นแปลงเป็นดาวพระเคราะห์เล็กแกร็น
ย้อนเหตุมา 1 ปี ก่อนที่จะมีการสัมมนาคณะผู้แทนใหญ่ที่สมาพันธ์ศิลปินศาสตรสามายากลแล้วก็การโหวตตัดดาวพลูโตออกมาจากดาวพระเคราะห์ ในระบบสุริยะ ในวันที่ 29 ก.ค. 2548 มีนักดาราศาสตร์ได้เจอวัตถุขนาดใหญ่บนฟ้า ซึ่งมาขนาดใหญ่กว่าดาวพลูโตราว 1 เท่า
ซึ่งในตอนนั้นเป็นที่ฮือฮาของนักดาราศาสตร์เป็นอย่างยิ่งว่าระบบสุริยะของพวกเรานั้นจะมีดาวเคราะห์ดวงที่ 10 หรือเปล่า วัตถุขนาดใหญ่บนฟ้าที่ได้ศึกษาและทำการค้นพบนั้นนักดาราศาสตร์ตั้งชื่อให้มันว่า 2003 ยูบี 313 (2003 UB313) เจ้า2003 ยูบี 313นี้มันอยู่ห่างจากดวงตะวันไกลแทบร้อยเท่าของโลก หมุนรอบดวงตะวันโดยใช้ช่วงเวลา 557 ปี แล้วก็ราบวิถีโคจรเอียงทำมุม 45 องศา
ซึ่งมันอยู่เลยจากวิถีโคจรของดาวเนปจูนออกไป ซึ่งในเวลาที่นักดาราศาสตร์ได้ศึกษาและทำการค้นพบดาวดวงนี้ เขาก็เจอดาวที่คล้ายกันอีก สองสามดวง ซึ่งในตอนนั้นเอง หลักฐานอะไรก็กำกวม มีแค่เพียงภาพที่เอามาจากการสำรวจโดยกล้องที่สำหรับใช้ในการส่องดูดาว ซึ่งแน่ๆว่า
ยังไร้เหตุผลมากพอที่จะประกาศเนื้อหาได้ซึ่งทางนักดาราศาสตร์ก็ยังไม่คิดที่จะเผยหัวข้อนี้
แต่ว่าอย่างที่พวกเรารู้กัน ความลับไม่มีในโลก ข้อมูลการศึกษาและทำการค้นพบนี้ถูกแฮ็กเกอร์มือดีนำข้อมูลมาออกข่าวสาร ทำให้คนทั่วทั้งโลกฮือฮา สำหรับเจ้า 2003 ยูบี 313 นี้นักดาราศาสตร์ที่ศึกษาค้นพบยังบอกอีกว่ามันมีแสงไฟมากมาย แสงไฟของมันเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากการที่ผิวของดวงดาวสะท้อนแสงจากด้วยอาทิตย์ แล้วก็ด้วยขนาดที่มันใหญ่มากยิ่งกว่าดาวพลูดโต ก็เลยทำให้มันยิ่งมองกระจ่างแจ้งมากขึ้นไปอีก ความพิเศษของ 2003 ยูบี 313
ยังมีอีกเนื่องด้วยข้างหลังการศึกษาค้นพบมัน ได้มีนักดาราศาสตร์ชื่อว่า ไมเคิล อี. บราวน์ พบว่าดาวดวงนี้มีดาวบริวารอยู่ใกล้กันจากการที่เขาได้ตรวจสอบผ่านกล้องที่สำหรับใช้ในการส่องดูดาวที่ใช้ระบบอะแดปคราวฟออปติเตียนกจำพวกที่ใช้เลเซอร์ ซึ่งเขาได้พินิจพิจารณาจากความสว่างจากการสะท้อนแสงจากดวงตะวันในดาวบริวารดวงนี้พบว่ามันคงจะมีขนาดเล็กกว่า 2003 ยูบี 313 ถึง 10 เท่า
แม้กระนั้นการศึกษาค้นพบนี้ก็ยังการันตีอะไรมิได้ด้วยเหตุว่าเป็นเพียงการสำรวจผ่านกล้องส่องสำหรับดูดาวเพียงแค่นั้น
แม้กระนั้นแม้กระนั้นการศึกษาค้นพบดาวดวงนี้เองและก็บริวารของมัน ทำให้ดาวนพเคราะห์ดวงเก่าเป็นต้นว่าดาวพลูโตมีการซวดเซ และก็มีการนำเรื่องราวการศึกษาค้นพบ 2003 ยูบี 313 รวมทั้งดาวดวงอื่นๆที่ศึกษาค้นพบในเวลาเดียวกันนี้นำไปพินิจพิจารณาจนถึงไปสู่การให้คำนิยามดาวพระเคราะห์ เพื่อปรึกษาขอคำแนะนำการบรรจุดาวนพเคราะห์ดวงใหม่เข้าไป หรือ ถอดดาวนพเคราะห์ดวงเก่าออกอย่างที่พวกเราได้เล่าไปในตอนแรก
เป็นอย่างไรกันบ้างขาเพื่อนพ้องๆเกือบไปที่ระบบสุริยะของพวกเรานั้นจะมีดาวเคราะห์ 10 ดวง ไม่แน่ว่าถ้าเกิดว่าไม่มีการกำหนดคุณลักษณะดาวนพเคราะห์ให้มีลักษณะเฉพาะราวกับช่วงนี้ พวกเราอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีดาวพระเคราะห์เพิ่มมาเรื่อยจากการสำรวจของนักดาราศาสตร์ของพวกเรา เพราะว่าคนใดจะไปทราบดีว่า ในจักรวาลนั้นมีวัตถุปัญหาอะไรที่หลบอยู่บ้าง
แต่ยังไงก็ตามในช่วงเวลานี้สหายๆสุขใจได้น่าฟังดาวนพเคราะห์ในระบบสุริยะของพวกเรามีคำอธิบายศัพท์ที่จะต้องมีลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์เพียงแค่นั้นก็จะสามารถเป็นดาวนพเคราะห์ในระบบสุริยะของพวกเราได้ ฉะนั้นสรุปให้ฟังใหม่ว่า ขณะนี้พวกเรายังมีดาวเคราะห์เพียงแค่ 8 ดวงเพียงแค่นั้นนะคะ ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน
แม้กระนั้นหากในอนาคต โลกของพวกเรานั้นได้ศึกษาค้นพบดาวพระเคราะห์ดวงใหม่อีก แน่ๆว่า พวกเรา จะไม่พลาดสำหรับการนำสิ่งที่น่าดึงดูดมาให้เพื่อนพ้องๆได้ดูกัน และก็สำหรับวันนี้ถ้าเกิดคนไหนกันต้องการรับดูเรื่องราวเรื่องราวดาวพลูโต หรือเรื่องราวของ แพลนลานเนท เอ็กซ์ ดาวนพเคราะห์ดวงที่เก้า ก็สามารถหารับดูได้ในช่องของพวกเรานะ