ในเอกภพของพวกเรามีกาแล็กซีต่างๆมากไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งกาแล็กซี (Galaxy) ในที่นี้ก็หมายความว่า กรุ๊ปดาวฤกษ์ขนาดใหญ่ มีดวงดาว ก๊าซ ฝุ่นละออง รวมทั้งสสารมืด ส่วนประกอบกลุ่มนี้ถูกแรงโน้มถ่วงยึดเอาไว้ร่วมกันก็เลยทำให้เกิดเป็นกาแล็กซีขึ้น โดยแต่ละกาแล็กซีก็จะมีขนาดแตกต่างออกไป แม้กระนั้นโดยมากแล้วจะกว้างโดยประมาณ 100,000 – 200,000 ปีแสง และก็มีดาวเวลาอยู่ในนั้นได้ตั้งแต่สิบล้านดวงถึงกว่าล้านล้านดวง หมุนรอบใจกลางเดียวกันด้วย
ในเมื่อเอกภพของพวกเรามีกาแล็กซีอยู่มากไม่น้อยเลยทีเดียว เพื่อไม่ให้เป็นการงงมาก พวกเราก็เลยได้ตั้งชื่อกาแล็กซีแต่ละที่ แล้วก็กาแล็กซีที่มีดวงอาทิตย์เป็นศููนย์กึ่งกลางนี้ก็มีชื่อในภาษาอังกฤษว่า “Milky Way” เนื่องจากว่าคำว่า “Galaxias” ในภาษากรีกหมายความว่า “นม” ชาวต่างประเทศก็เลยเรียกกาแล็กซีของพวกเราว่า “Milky Way” หรือทางนมนั่นเอง ในเวลาที่ภาษาไทยพวกเราจะเรียกกาแล็กซีนี้ว่า “กาแลคซี่ทางช้างเผือก” ด้วยเหตุว่าบ้านเรือนพวกเรามีความสัมพันธ์กับช้าง รวมทั้งคิดว่าช้างเผือกเป็นผู้แทนของข้าวของสูงค่า ด้วยเหตุผลดังกล่าวพวกเราก็เลยตั้งชื่อให้กาแล็กซีนี้ว่า “กาแลคซี่ทางช้างเผือก” เพื่อความเป็นมงคล แต่ทว่าไม่กี่ปีที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ เหล่านักวิทยาศาสตร์ได้ศึกษาและทำการค้นพบว่ากาแล็กซีกาแลคซี่ทางช้างเผือกของพวกเรากำลังโยก!?
Milky Way
ภาพกาแล็กซีกาแลคซี่ทางช้างเผือกกำลังสั่น – ขอขอบพระคุณภาพอธิบายจากเว็บ bbc.com
เรื่องมันเริ่มขึ้นเมื่อ ดร.เทเรซา อันโตฮา (Teresa Antoja) หัวหน้าทีมศึกษาค้นคว้า จากมหาวิทยาลัยบาร์เซโลนา ในประเทศกาตาลุญญา ประเทศสเปน ได้นำข้อมูลของตำแหน่งของดวงดาวจากกล้องส่องทางไกลอวกาศกายอา (Gaia) มาวิเคราะห์มองในกันยายน ปี 2018 คุณได้อัพโหลดข้อมูลทั้งผองลงในคอมพิวเตอร์ เพื่อเปรียบความเร็วของดวงดาวให้แม่นเยอะขึ้นเรื่อยๆ
แม้กระนั้นแล้วดร.เทเรซาก็พบว่า เส้นแผนภูมิการเคลื่อนไหวของดวงดาวมันวนเป็นทรงพิลึกคล้ายกับรูปก้นหอย หรือก็คือเวลานี้ดวงดาวกว่า 1 พันล้านดวงในกาแล็กซีกาแลคซี่ทางช้างเผือกของพวกเรากำลังขยับเขยื้อนขึ้นลงอย่างกับลูกคลื่น เวลามีคนโยนหินลงไปในหนองน้ำนิ่ง
ดร.เทเรซา อันโตฮา
ภาพ ดร.เทเรซา อันโตฮา – ขอขอบพระคุณภาพอธิบายจากเว็บ cosmos.esa.int
ศ.จ. อามีทุ่งนา เฮลมี (Amina Helmi) สมาชิกทีมงานนักวิจัย จากมหาวิทยาลัยโกรนินเงิน (University of Groningen) เนเธอร์แลนด์ กล่าวเสริมว่า การปรากฏนี้น่าจะเป็นร่องรอยจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาแล้ว เช่นมีวัตถุอวกาศพุ่งเข้ามาเฉียดฉิวกาแล็กซีของพวกเรา แม้ว่าวัตถุอวกาศนั้นจะมิได้ชนกับดวงดาวของพวกเราเข้าจังๆแม้กระนั้นด้วยแรงโน้มถ่วงของวัตถุอวกาศนั้น ก็อาจจะส่งผลให้การเคลื่อนของดวงดาวในกาแล็กซีพวกเราเริ่มป่วนปั่นได้
ซึ่งจากการวิเคราะห์มอง วัตถุอวกาศที่ว่านี้ก็น่าจะเป็นศิลปินจักรเล็กแกร็นซาจิตแทเรียส (Sagittarius) กาแล็กซีขนาดเล็กที่มีดาวโอกาสอยู่เพียงแค่ไม่กี่พันล้านดวง โดยกาแล็กซีนี้ได้โคจรเข้ามาเฉียดฉิวกาแลคซี่ทางช้างเผือกของพวกเราเมื่อโดยประมาณ 200-1,000 ล้านปีกลาย และก็ในขณะนี้กาแลคซี่ทางช้างเผือกของพวกเราก็กำลังกลืนมันเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของกาแล็กซีพวกเราอยู่
ศิลปินจักรเล็กแกร็นซาจิตแทเรียส
ภาพศิลปินจักรแคระแกร็นซาจิตแทเรียส – ขอขอบคุณมากภาพอธิบายจากเว็บ bbc.com
ในจุดนี้บางบุคคลบางครั้งอาจจะหนักใจว่าการดูดกาแล็กซีที่กำลังเกิดขึ้นจะก่อให้เกิดผลเสียยังไงต่อโลกของพวกเราบ้างหรือไม่ แต่ว่าในความเป็นจริงแล้วการรวมตัวของกาแล็กซีต่างๆนั้นนับว่าเป็นเรื่องธรรมดามากมาย แล้วก็พวกเราก็มีหลักฐานงานศึกษาเรียนรู้อยู่จำนวนมากที่ชี้ว่าในอดีตกาลกาแล็กซีกาแลคซี่ทางช้างเผือกของพวกเราก็เคยรวมกลุ่มกับกาแล็กซีบริวารอย่างอื่นอยู่บ่อยครั้ง รวมทั้งในแต่ละครั้งก็ใช้เวลานานหลายล้านปีกว่าจะดูดกาแล็กซีพวกนั้นเสร็จ
แต่ว่าแต่กระนั้น การคาดเดาที่ว่ากาแล็กซีกาแลคซี่ทางช้างเผือกของพวกเราสั่นไหวจากการเฉียดฉิวผ่านของกาแล็กซีบริวารก็เป็นเพียงข้อสันนิฐานแค่นั้น กระทั่งในมี.ค. ปี 2020 นักค้นคว้าจากสถาบันฟิสิกส์ดาราศาสตร์แห่งชาติอิตาลี (INAF) ก็ได้ออกมาการันตีแล้วว่า การสันนิฐานน่าจะเป็นความเป็นจริง!
กาแล็กซีกาแลคซี่ทางช้างเผือกกลืนศิลปินจักรแคระแกร็น
ภาพกาแล็กซีกาแลคซี่ทางช้างเผือกดูดศิลปินจักรเล็กแกร็น – ขอขอบพระคุณภาพอธิบายจากเว็บ bbc.com
โดยผลที่เกิดจากงานวิจัยนี้ได้เผยแพร่ลงใน Nature Astronomy นิตยสารที่เก็บการวิจัยเกี่ยวกับดาราศาสตร์ธรรมชาติ ว่าส่วนที่เหยเกรวมทั้งสั่นไหวในกาแล็กซีกาแลคซี่ทางช้างเผือกพวกเราจำนวนมากเป็นกรุ๊ปแก๊สไฮโดรเจนแล้วก็ดาวฤกษ์ ซึ่งดาวฤกษ์ที่อยู่ในแรงกระเพื่อมนี้จะใช้เวลาหมุนรอบกาแล็กซียาวนานกว่าดวงดาวธรรมดา อย่างดวงตะวันที่ธรรมดาแล้วจะใช้เวลาสำหรับเพื่อการหมุนรอบใจกลางของกาแลคซี่ทางช้างเผือก 220 ล้านปี แม้กระนั้นสำหรับดาวฤกษ์ที่กำลังสั่นไหวอยู่นั้นจะใช้เวลานานถึง 600-700 ล้านปีอย่างยิ่งจริงๆ
“ถึงแม้ส่วนที่บิดแล้วก็โยกคลอนจะเคลื่อนได้ช้ามากมาย แต่ว่าก็ยังนับว่าเร็วกว่าที่จะต้องเป็น ถ้าเกิดแรงกระเพื่อมนี้เกิดขึ้นได้เนื่องมาจากปัจจัยอื่นตามเดิมมีคนคาดการณ์เอาไว้” ดร. เอฝ่าซา ป็อกจิโอ (Eloisa Poggio) หนึ่งในสมาชิกทีมงานนักวิจัย กล่าว โดยอ้างถึงการสันนิษฐานของนักดาราศาสตร์กรุ๊ปอื่นที่ว่า อันที่จริงแล้วกาแล็กซีกาแลคซี่ทางช้างเผือกบางทีก็อาจจะขับเคลื่อนเนื่องจากว่าอิทธิพลจากสสารมืด แรงเหวี่ยงจากศูนย์กลางกาแล็กซี หรือสนามไฟฟ้าระหว่างกาแล็กซีทั้งคู่หรือไม่ แต่ว่าจากการศึกษานี้ก็ได้ทำให้ทราบแล้วว่า ข้อสมมติฐานของพวกเขามันไม่ตรงกันกับผลของการทดสอบที่ออกมา
กาแล็กซีกาแลคซี่ทางช้างเผือกกำลังกระเพื่อม
ภาพกาแล็กซีกาแลคซี่ทางช้างเผือกกำลังกระเพื่อม – ขอขอบคุณมากภาพอธิบายจากเว็บ astromart.com
สรุปแล้วผู้กระทำระเพื่อมของกาแล็กซีกาแลคซี่ทางช้างเผือกนี้ก็มีสาเหตุมาจากการเขยื้อนผ่านของกาแล็กซีบริวารของพวกเรานี่เอง