จะเป็นเยี่ยงไรถ้าหากไม่มีพระจันทร์

พระจันทร์ที่พวกเรามองเห็นช่วงกลางคืนเวลานี้หากวันหนึ่งไม่มีมันขึ้นมาจะเป็นเยี่ยงไร วันนี้เรา จะพาเพื่อนฝูงๆมาหาคำตอบกัน อย่างที่เข้าใจกันอยู่นั้นว่าโลกของพวกเรามีดาวบริวารเพียงแต่ดวงเดียวซึ่งก็คือพระจันทร์ พระจันทร์รวมทั้งโลกนั้นเกิดขึ้นมาตอนที่ไล่เลี่ยกัน กล่าวได้ว่ามันราวกับเป็นพี่เป็นน้องกันมาตั้งแต่ไหนแม้กระนั้นไร. โดยที่พระจันทร์มีขนาดพอๆกับ 1 ใน 4 ส่วนของโลก แล้วก็ถือได้ว่าเป็นดาวบริวารดวงที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาดาวบริวารของดาวนพเคราะห์ทั้งปวงในระบบสุริยะ ซึ่งการที่มันมีขนาดใหญ่อย่างงี้ทำให้มันย่อมทรงอิทธิพลต่อโลกสิ่งเดียวกัน อย่างเช่น ปรากฎการณ์น้ำขึ้นน้ำลง. ทดลองเล่นสลอต ซึ่งมันจะเป็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นที่ระดับน้ำทะเล จะมีการเพิ่มระดับและก็ลดระดับตามแต่วัน เพราะว่าแรงดึงดูดของโลกกับพระจันทร์ทำให้น้ำรอบๆผิวของโลกที่อยู่ด้านเดียวกับพระจันทร์สูงมากขึ้น ตรงกันข้ามกับน้ำบนผิวอีกฝั่งที่มิได้หันเข้าพบพระจันทร์ก็จะเป็นน้ำลง นอกเหนือจากนี้อิทธิพลที่พระจันทร์มีต่อโลกก็คือแรงดึงดูดของพระจันทร์มันทำให้แกนโลกเอียงถึงราว 23.5 องศา ซึ่งโลกจะเอียงอย่างงี้อยู่เสมอเวลาซึ่งมนุษย์เรานั้นบางครั้งก็อาจจะรู้สึกไม่เป็นผลกระทบอะไรเนื่องจากพวกเรานั้นเคยชินแล้ว. ตั้งแต่ในอดีตกาลถึงปัจจุบันนี้มีนักดาราศาสตร์ต่างหาคำตอบว่าพระจันทร์นั้นเกิดขึ้นมาได้เช่นไร จนถึงเปลี่ยนมาเป็นแนวความคิดที่นานาประการที่ยังหาคำตอบกันมิได้ เนื่องจากยังไม่เคยมีคนไหนกันพิสูจน์ได้ด้วยเหตุว่าเรื่องพวกนั้นมันกำเนิดก่อนจะมีมนุษย์เกิดขึ้นเสียอีก. แต่ว่าสิ่งที่นักดาราศาสตร์และก็นักวิทยาศาสตร์เชื่อมากที่สุดซึ่งก็คือ แนวความคิดการกำเนิดพระจันทร์ที่ว่ามันเกิดมาจากการชนของอุกกาบาตขนาดเท่าดาวอังคารมาชนโลกในตอนที่โลกกำลังสร้างเนื้อสร้างตัวอยู่ ซึ่งขณะนั้นโลกยังร้อนและไม่แข็งมากมาย เมื่อโดนอุกกาบาตก็เลยมีการกระจัดกระจายออกไป โดยองค์ประกอบที่กระจัดกระจายออกไปนั้นไปหลอมละลายรวมกันด้วยแรงดึงดูดกระทั่งเปลี่ยนเป็นพระจันทร์ท้ายที่สุด. ทดลองเล่นสล๊อต ซึ่งแนวความคิดนี้ก็มีข้อสันนษฐานเยอะมากมารองรับว่ามันบางทีอาจจะเป็นจริงและก็น่าไว้ใจที่สุด เพราะเหตุว่าจากการที่ปี คริสต์ศักราช1969 ยาน Apollo11 ได้ส่งนักบินอวกาศไปเหยียบบนพระจันทร์หนแรกและก็คราวนั้นไม่เพียงแต่สร้างประวัติศาสตร์การเยียบพระจันทร์ทีแรกของโลกเพียงแค่นั้น แม้กระนั้นนักบินอวกาศยังเก็บเนื้อเก็บตัวอย่างหินบนพระจันทร์กลับมาพินิจพิจารณาที่โลกของพวกเรา ซึ่งเมื่อเอามาพินิจพิจารณาพบว่าผิวของพระจันทร์นี้มีไอโซโทปของออกสิเจนดังที่เจอบนโลก ก็เลยทำให้นักวิทยาศาสตร์มั่นใจว่า โลกแล้วก็พระจันทร์คงจะเกิดมาจากแหล่งเดียวกัน. สำหรับพระจันทร์นั้นนับได้ว่าเป็นดาวที่มีระยะทางใกล้โลกสูงที่สุด โดยมีระยะทางเพียง 384,403 กม. ถึงแม้แบบอย่างหินบนพระจันทร์นั้นจะละม้ายกับโลก แต่ว่าก็มิได้มีความหมายว่ามนุษย์เราจะไปสามารถไปอยู่บนพระจันทร์ได้เพราะเหตุว่าสถลาเจอนพระจันทร์นั้นไม่มีอะไรที่เอื้อต่อการดำรงชีพของผู้คนเลย. ซึ่งมันยังไม่สามารถที่จะให้พวกเราตั้งรกรากอยู่ได้ปัจจุบันนี้ แต่ว่านักวิทยาศาสตร์ของโลกก็ไม่ยอมแพ้ สร้างสรรค์เทคโนโลยีใหม่ๆที่จะนำไปสร้างอาคารบ้านเรือนตัวอย่างเช่นลูท้องนาร์เกตเวย์ของทุ่งนาซ่า สนานีอวกาศที่ใหม่ที่จะขึ้นไปหมุนรอบพระจันทร์ คล้ายกับสถานีอวกาศนานาประเทศที่เดี๋ยวนี้กำลังโคจรอยู่รอบโลก รวมทั้งบางครั้งอาจจะใช้เป็นจุดแวะพักเพื่อยานอวกาศที่มีภารกิจที่จำเป็นต้องเดินทางไกล…


ระบบประชาธิปไตยบนดาวอังคาร ในแบบอีลอน มัสก์

ด้วยภาวะโลกที่เสื่อมโทรมลงทุกๆวัน ทำให้คนจำนวนไม่น้อยเริ่มนึกถึงกลยุทธ์การย้ายไปอยู่บนดาวดวงอื่น ซึ่งพวกเราก็จะมองเห็นได้จากแผนการต่างๆอย่างเช่น แผนการแข่งขันยานอวกาศสำหรับย้ายคนไม่ใช่น้อยขึ้นอวกาศ ที่มีผู้เข้าร่วมแข่งขันเป็นบริษัทขนส่งยักษ์ใหญ่อย่าง SpaceX รวมทั้ง Boeing, ภารกิจมาร์ส วัน (Mars One) ที่ตระเตรียมส่งคนขึ้นไปทดสอบตั้งภูมิลำเนาบนดาวอังคารในปี 2023, ตลอดจนงานศึกษาวิจัยต่างๆอีกเพียบเลยที่สร้างสรรค์เครื่องมือและอุปกรณ์สำหรับช่วยในด้านสำหรับอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่จะย้ายขึ้นไปอยู่บนดาวดวงอื่น อย่างบ้านที่สร้างมาจากเชื้อราหรือเยี่ยว ฯลฯ. พูดได้ว่าในเวลานี้พวกเราก็แทบมีพร้อมแทบทุกอย่างให้สามารถย้ายขึ้นไปอยู่บนดาวดวงอื่นได้แล้ว แต่ว่าสิ่งที่พวกเราจะต้องคิดถัดจากนี้เป็น หากว่าคนไม่ใช่น้อยย้ายขึ้นไปอยู่บนดาวดวงใหม่แล้วล่ะก็ พวกเราจะใช้กฏหมายแบบไหนควบคุมการกระทำของเค้าเหล่านั้น และก็คนใดเป็นคนออก. ทดลองเล่นสลอต เพราะว่าหากไม่มีกฏเกณฑ์ด้วยกัน มนุษย์ก็คงจะเอารัดเอาเปรียบกัน และยังรวมไปถึงชิงทรัพย์ฆ่ากันเป็นว่าเล่นอย่างแน่แท้ ด้วยเหตุฉะนี้ อีลอน มัสก์ ผู้ครอบครองบริษัท SpaceX บริษัทขนส่งอวกาศก็เลยได้เสนอการปกครองที่ชื่อว่า “ระบบประชาธิปไตยโดยตรง” (Direct democracy) ขึ้นมา เพื่อเอาไว้ใช้บนดาวอังคาร แม้กระนั้นระบอบนี้จะมีรายละเอียดคืออะไร มาติดตามดูไปพร้อมเพียงกันนะคะ. เรื่องระบบประชาธิปไตยโดยตรงนี้ อีลอน มัสก์เคยบอกเอาไว้ภายในงาน Code Conference 2016 โดยเขาได้ชี้แจงแนวทางของมันไว้ว่า เมื่อพวกเราทุกคนย้ายไปอยู่บนดาวอังคารแล้ว พวกเราต้องมีระบอบที่พลเมืองทุกคนสามารถโหวตเพื่อสร้างกฏหมายเองได้ โดยไม่ต้องผ่านผู้แทนนักการเมืองให้มาบอกแทนสามัญชนอีกครั้ง ซึ่งระบบนี้จะสามารถลดปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อราษฎร์บังหลวงของนักการเมืองได้ด้วย อีลอน มัสก์ยังได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ระบอบนี้จะให้โอกาสให้ทุกคนได้โอกาสให้ความคิดเห็นแล้วก็มีส่วนร่วมสำหรับเพื่อการร่างกฏหมาย ถ้าหากว่ากฏหมายไหนได้รับคะแนนเสียงอนุมัติจากประชากรมากยิ่งกว่า 60…


ข้อบังคับเกี่ยวกับต่างดาวที่พวกเรายังไม่ทราบ

ข้อบังคับเกี่ยวกับต่างดาวที่พวกเรายังไม่รู้aเมื่อสิ่งมีชีวิตบนโลกเริ่มมีมากไม่น้อยเลยทีเดียวขึ้น การดำเนินชีวิต ของผู้คนแล้วก็สิ่งมีชีวิตอื่นๆบนโลกนั้นล้วนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่มีความเกี่ยวข้องต่อกัน โลกก็เลยจำเป็นจะต้องมีข้อบังคับเพื่อยึดมั่นปฏิบัติให้สังคมได้ก้าวเดินต่อไปตามข้อกำหนดและก็ลดความระส่ำระสายที่จะเกิดขึ้น. แม้กระนั้นคนไหนกันแน่จะไปทราบว่า ในอวกาศ หรือสิ่งมีชีวิตใดก็ตามที่มาจากอวกาศ ถ้าหากเข้ามาเกี่ยวโยงกับโลกแล้ว ก็ต้องยึดมั่นข้อตกลงรวมทั้งข้อกำหนดกฎหมายของโลกเช่นกัน วันนี้ จะพาเพื่อนฝูงๆมาดู ข้อบังคับเกี่ยวกับต่างดาวแล้วก็อวกาศ ซึ่งพวกเราแน่ใจว่าสหายๆบางบุคคลบางทีก็อาจจะยังไม่เคยรู้แน่นอนเมื่อก่อนจะไปรับดูอย่าลืมกด Like กด Share รวมทั้งกดติดตามเราด้วยนะคะ. ทดลองเล่นสลอต เรื่องมนุษย์ดาวอื่น สิ่งมีชีวิตจากต่างดาวหรือเรื่องราวต่างๆในอวกาศ เพื่อนพ้องๆบางทีอาจรู้สึกว่ามันเกิดเรื่องไกลตัวและก็บางทีก็อาจจะไม่ใช่เรื่องที่คงจะให้ความใส่ใจกับมันมากสักเท่าไรนัก แม้กระนั้นทางยูเอ็นและก็ที่ประชุมพรรคคองเกรสที่สหรัฐฯมิได้ปล่อยทิ้งเรื่องราวกลุ่มนี้ไป เพราะว่าพวกเขาได้ร่างกฎหมายที่ครอบคลุมเกี่ยวกับการพบเจอมนุษย์ดาวอื่นหรือการที่มนุษย์ดาวอื่นเดินทางมายังโลกของพวกเรา รวมถึงการที่นักบินอวกาศได้ขึ้นไปพบเห็นกับมนุษย์ดาวอื่นหรืออารยธรรมอื่นในอวกาศ โดยเราได้สรุปข้อกำหนดกฎหมายที่หลักๆมาให้เพื่อนฝูงๆดังต่อไปนี้. 1.การไปตั้งอาณานิคมบนดาวดวงอื่นพูดได้ว่าการตั้งอาณานิคมบนดาวดวงอื่นนั้นเป็นสิ่งที่นักดาราศาสตร์มุ่งหมายที่จะเผชิญเพื่อหาที่อยู่อาศัยใหม่ที่ละม้ายกับโลก แต่ว่าเพื่อนพ้องๆทราบหรือเปล่าว่า ถ้าเกิดพวกเราเจอดาวดวงที่พวกเราจะไปสร้างอาณานิคมได้นั้น มันย่อมมีตัวบทกฎหมายที่พักอยู่ซึ่งตามกฎหมายเจาะจงไว้ว่า ดวงดาวต่างๆที่พวกเราศึกษาและทำการค้นพบแล้วก็จะไปสร้างอาณานิคมนั้นจะไม่มีประเทศไหนเป็นเจ้าของ. เพราะดาวดวงนั้นจะเป็นของมนุษย์บนโลกทุกคน แต่ว่าการที่จะนำข้อบังคับจากประเทศไหนไปใช้นั้นขึ้นกับว่า หน่วยงานด้านอวกาศของประเทศไหนได้ไปส่งมนุษย์ไปตั้งภูมิลำเนาที่ดาวดวงนั้นๆก่อน จะได้นำข้อบังคับไปใช้สำหรับเพื่อการดำรงชีพในดวงดาวดวงนั้นด้วย. 2.กฎการพบเจอมนุษย์ดาวอื่นตามข้อสัญญาที่ได้มีการระบุรวมทั้งทำเป็น ข้อตกลงอวกาศ โดยมี 125 ประเทศร่วมเซ็นชื่อ ได้เจาะจงเอาไว้ว่าถ้าเกิดมีการตรวจสอบอวกาศ ดวงดาว หรือพระจันทร์ รวมทั้งเจอสิ่งที่เปลี่ยนไปจากปกติ และก็เป็นสิ่งที่แปลกใหม่ รวมทั้งการเจอสิ่งมีชีวิตจากต่างดาว คนที่เจอจำเป็นต้องรายงานให้กับยูเอ็นโดยทันทีข้างหลังการศึกษาค้นพบ. 3.กฎการเคลื่อนที่ใกล้แหล่งน้ำในดาวดวงอื่นด้วยเหตุว่าการศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัยและก็การวิเคราะห์จากการสำรวจดวงดาวต่างๆพบว่าน้ำน่าจะเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตบนต่างดาว ก็เลยมีข้อบังคับควบคุมออกมาว่า ยังไม่อนุญาตให้เทคโนโลยีจากบนโลกไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ตรวจหรือยานอวกาศเข้าไปใกล้รอบๆนั้น เนื่องจากว่าอาจมีการแปดเปื้อนจากสิ่งมีชีวิตบนโลกที่ติดไปพร้อมกับเครื่องใช้ไม้สอยต่างๆไปยังแหล่งน้ำนั้นจนกระทั่งมีการกลายพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต จนกระทั่งไม่บางทีอาจเสาะหาได้ว่า สิ่งมีชีวิตที่จริงจริงในรอบๆเป็นยังไงกันแน่. ทดลองเล่นสล๊อต 4.กฎที่ว่าด้วยมนุษย์ดาวอื่นก็คือมนุษย์โดยชอบด้วยกฎหมายกำหนดไว้ว่ามนุษย์ดาวอื่นนั้นเปรียบมนุษย์ทั่วๆไป โดยเหตุนี้การกระทำต่อมนุษย์ต่างดาวก็จะต้องปฏิบัติเหมือนกันกับมนุษย์โลก…


พระจันทร์ปัญหาเข้ามาโคจรใกล้โลก

เมื่อเร็วๆนี้ได้มีประกาศจากองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ(สหรัฐอเมริกา)ว่าเจอวัตถุเหมือนพระจันทร์เข้ามาโคจรในรอบๆใกล้กับโลกของพวกเราแถมยังมาหมุนรอบโลกของพวกเราอีกด้วย หรือวัตถุปัญหานี้จะเป็นพระจันทร์ดวงที่ 2 ของโลกกันแน่ วันนี้เรา จะพาสหายๆมาทำความรู้จักกับวัตถุนี้กัน เมื่อก่อนจะไปรับดู อย่าลืมกด Like กด Share และก็กดติดตามด้วยนะคะ คราวหนึ่งนานมาแล้วในสมัยที่จักรวาลเริ่มที่จะเกิดทุกสิ่งในเอกภพ โลกได้เกิดขึ้นมาพร้อมๆกับพระจันทร์ที่เป็นบริวารของโลก แต่ว่าในสมัยก่อนนั้นนักดาราศาสตร์ได้ตั้งข้อสมมติฐานว่า พระจันทร์ของโลกนั้นอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมี 2 ดวง แต่ว่าด้วยแรงเหวี่ยงที่ร้ายแรงของอนุภาพการปะทุในครั้งที่เกิดจักรวาลทำให้พระจันทร์อีกทั้ง 2 ดวงนั้นชนกันแล้วก็หลอมรวมกันแปลงเป็นดวงเดียวกันจนถึงแปลงเป็นพระจันทร์ที่พวกเราแลเห็นช่วงเวลากลางคืนในทุกวันนี้ ทดลองเล่นสลอต ข้อสมมติที่เหล่านักดาราศาสตร์ได้กระทำการตรวจสอบนั้นพบว่ามีความน่าจะเป็นไปได้ที่พระจันทร์ของโลกจะเคยมี 2 ดวงมาก่อน โดยอีกทั้ง 2 มีขนาดที่ต่างกัน ซึ่งดวงหนึ่งมีขนาดเล็กและก็เย็นตัวลงแล้ว ส่วนอีกดวงหนึ่งเป็นดวงใหญ่ยังมีพลังงานเเละความร้อนรวมทั้งลาวาใต้ผิวดิน เมื่อพระจันทร์ทั้งยัง 2 ดวงโคจรมาพบกันและก็มีการชนกันด้วยพลังงานบางสิ่ง ก็ให้มีการหลอมรวมกันแปลงเป็นหนึ่ง โดยดวงเล็กที่เย็นตัวแล้ว เมื่อมีการจนถึงก็เลยกระจัดกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยเกาะอยู่บนพระจันทร์ดวงใหญ่ แล้วก็พระจันทร์ดวงใหญ่เมื่อมีการชนที่ร้ายแรงกระทั่งทำให้ลาวาใต้พื้นดินล้นออกมาฉาบเศษวัตถุที่ขจุยขจายจากการชน กระทั่งเปลี่ยนเป็นพระจันทร์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ข้อสมมตินี้สหายๆบางบุคคลบางทีอาจมีความคิดว่ามันเกิดขึ้นใช่หรือไม่ หรือนักดาราศาสตร์เพียงแค่คิดกันไปเอง ทดลองเล่นสล๊อต มีการเกื้อหนุนข้อสมมตินี้ด้วยแผนการ Apollo ต่างๆขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ(สหรัฐอเมริกา)ที่ขึ้นไปตรวจสอบพระจันทร์แล้วก็เก็บเนื้อเก็บตัวอย่างหินบนพระจันทร์กลับมายังโลกเพื่อทำพินิจพิจารณาพบว่าหินบนพระจันทร์นั้นมีสารที่เรียกว่า ครีป (Kreep) ที่มี โพแทสเซียม ธาตุฟอสฟอรัส รวมทั้งธาตุกรุ๊ปแรร์เอิร์ท โดยครีปเป็นสารที่เกิดมาเพื่อทำให้แมกมาดำรงอยู่ในภาวะของเหลว เป็นสารต่อต้านการตกผลึกของแมกมา ซึ่งสอดคล้องกับข้อสมมติของนักดาราศาสตร์ที่พวกเราได้บอกไปข้างต้นว่ามีลาวาแล้วก็แมกมาออกมาภายหลังจากการชนกันของพระจันทร์ 2 ดวง…


รูปติด UFO จากภารกิจปราบพระจันทร์

เมื่อกล่าวถึงเรื่องราวของต่างดาวหรือ UFO มันดูเหมือนเกิดเรื่องที่ไกลตัวเรามากมายๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อขณะที่มีคนใดสุดแล้วแต่ออกมาประกาศว่าพวกเขานั้นได้เจอ UFO คนโดยมากชอบไม่เชื่อ พระจันทร์ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ชาวโลกของพวกเราชอบไปเยี่ยมอยู่เป็นประจำรวมทั้งมักมีผู้คนที่มองเห็นวัตถุอะไรที่พิศดาร แล้วการไปเยี่ยมพระจันทร์ในแต่ละครั้ง มนุษย์เราเจออะไรที่น่าสงสัยมาบ้าง. วันนี้เรา จะพาเพื่อนพ้องๆมาดูภาพที่คนจำนวนไม่น้อยมั่นใจว่ามันเป็น UFO ที่เจอบนพระจันทร์ แม้กระนั้นขอเกริ่นไว้ก่อนเลยจ้ะ ว่าประเด็นนี้จำเป็นต้องใช้วิจารณญาณสำหรับเพื่อการรับดู ในที่สุดสหายๆจะมั่นใจว่ามันมีอยู่ใช่หรือไม่ก็สุดแต่การตัดสินใจของเพื่อนพ้องๆนะคะ เมื่อก่อนจะไปรับดู อย่าลืมกด Like กด Share และก็กดติดตามด้วยนะคะ. มาเริ่มกันที่ปี คริสต์ศักราช 1969 กันก่อน ในปีนั้นมีการกระทำภารกิจบนดาวอังคารโดยยาน Apollo 10 ซึ่งได้พานักบินอวกาศขึ้นไปยังฟ้าแล้วก็บินเหนือผิวโลกโดยประมาณ 77,000 กม. โดยมีจุดหมายการเดินทางเพื่อไปยังพระจันทร์ กลางทางนั้นเอง พวกเขาถ่ายภาพได้ว่ามีวัตถุทางอวกาศลึกลับ ซึ่งนักบินพวกนั้นเรียกวัตถุลึกลับนั้นว่า “ซานตาคลอส” เพราะเหตุว่าพวกเขามั่นใจว่ามันบางทีอาจจะเป็นมนุษย์ดาวอื่นที่กำลังจะออกเดินทางมาช่วยเหลือพวกเขาให้ทำภารกิจไปตรวจพระจันทร์ได้เสร็จ. ทดลองเล่นสลอต สองเดือนต่อมายานอวกาศขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ(สหรัฐอเมริกา)ได้ไปทำหน้าที่เดียวกัน มันก็คือ Apollo 11 คราวนั้นได้สร้างประวัติศาสตร์ให้กับโลกโดยเป็นครั้งแรกที่มนุษย์ไปเหยียบพระจันทร์ แม้กระนั้นในระหว่างการกระทำภารกิจนั้น นักบินอวกาศได้พบแสงบนพระจันทร์เขยื้อนไปตามดวงดาว ซึ่งยาวนานหลายปีต่อมา บัซ อัลดริล หนึ่งในนักบินอวกาศภารกิจ Apollo 11 นั้น ได้นำภาพลับมาเผยแพร่กับรายการๆหนึ่ง ซึ่งเขากล่าวว่า เขาแน่ใจว่าควรจะมีมนุษย์ดาวอื่นอยู่บนพระจันทร์…


สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ปราบดาวอังคารใน 6 ปี

ในตอนที่น่านฟ้าบนโลกถูกควบคุมด้วยกฏหมายของแต่ละประเทศ หากจะบินเข้าบินออกประเทศไหนก็ควรมีการขอก่อน แม้กระนั้นสำหรับพื้นที่กว้างบนอวกาศยังคงเปิดกว้างให้ผู้ใดกันแน่ก็ไปตรวจได้อย่างเสรี แต่ว่าก่อนหน้านี้ การเดินทางขึ้นอวกาศควรต้องใช้งบประมาณสูงมากมาย รวมทั้งองค์วิชาความรู้ของนักวิทยาศาสตร์และก็นักบินของประเทศนั้นๆอีก ทำให้ประเทศซึ่งสามารถขึ้นไปตรวจอวกาศได้มีเพียงแต่ประเทศมหาอำนาจอย่างรัสเซียกับประเทศสหรัฐอเมริกาเพียงแค่นั้น. แต่ว่าในสมัยข้างหลังๆมานี้ หลายประเทศก็เริ่มสร้างยานอวกาศของตัวเองได้มากขึ้น ทั่วประเทศจีนที่ส่งยานฉางเอ๋อ4 ขึ้นไปตรวจสอบด้านไกลของพระจันทร์ อินเดียที่สร้างจันทร์ยาน 2 ที่เป็นยานอวกาศทุนต่ำ ในงบประมาณเพียงแต่ 140 ล้านดอลลาร์ ฯลฯ. ทดลองเล่นสลอต แล้วในตอนนี้ก็มาถึงคิวของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กันบ้างที่จะส่งบางสิ่งขึ้นไปตรวจสอบอวกาศ ฉะนั้นวันนี้เรา ก็เลยจะขอพาท่านผู้ชมทุกคนไปดูโปรเจกต์ตรวจดาวอังคารด้วยดาวเทียมโฮปของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กัน เมื่อก่อนที่จะไปรับดูกัน อย่าลืมกดไลค์ รวมทั้งกดติดตามเฟซบุ๊กแฟนเพจ ไว้ เพื่อเป็นอย่างยิ่งหัวใจให้กับเราด้วยนะคะ. อย่างที่พวกเราเข้าใจกันอยู่ว่า สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือยูเออีไม่ใช่คนนำทางด้านอวกาศ โดยเหตุนั้นก็เลยไม่ค่อยมีประสบการณ์ด้านการออกแบบรวมทั้งผลิตยานอวกาศสักเท่าไหร่ รวมทั้งไม่มีงบประมาณมากพอที่จะสั่งซื้อยานอวกาศราคาสูงจากต่างแดนอีกด้วย แม้กระนั้นโน่นก็มิได้ทำให้ยูเออียอมยกธงขาวอะไร เนื่องจากเขามั่นใจว่าหากประเทศอื่นทำเป็น ยูเออีก็จำเป็นต้องทำเป็นด้วยเหมือนกัน. เพราะเหตุนี้ ยูเออีก็เลยเริ่มที่จะเรียนกรรมวิธีการวางแบบและก็ผลิตยานอวกาศเอง โดยได้รับข้อเสนอจากผู้ที่มีความเชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยหลายที่ในประเทศประเทศสหรัฐอเมริกา แล้วก็เนื่องจากว่าการส่งมนุษย์ขึ้นยานอวกาศหรือสร้างยานอวกาศที่มีความสลับซับซ้อนสูงบางทีก็อาจจะเกิดเรื่องยากเกินความจำเป็นสำหรับมือใหม่ ทางยูเออีก็เลยได้เริ่มจากการผลิตดาวเทียมตรวจอวกาศขึ้นมาแทน ซึ่งท้ายที่สุดยูเออีก้สามารถสร้างดาวเทียมขึ้นมาได้ในช่วงเวลาเพียงแต่ 6 ปีเพียงแค่นั้น. โดยทางยูเออีตั้งชื่อดาวเทียมนี้ว่า “โฮป” (Hope) เป็นดาวเทียมที่มีน้ำหนักรวมทั้งสิ้น 1.3 ตัน ซึ่งภารกิจของนั่นก็คือการออกเดินทางไปตรวจสอบดาวอังคาร แต่ว่าสำหรับผู้ที่ติดตามข่าวด้านอวกาศกันมานานคงพอจะรู้กันดีอยู่แล้วว่า การสำรวจดาวอังคารนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร เพราะเหตุว่าก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาหน่วยงานทั้งหลายแหล่ก็เคยส่งยานไปตรวจสอบดาวอังคารกันจนกระทั่งปรุไปหมด พูดได้ว่าเป็นดาวสุดฮอตที่หลากหลายองค์กรถูกใจส่งยานไปตรวจสอบเลยก็ว่าได้. ทดลองเล่นสล๊อต…


วิถีโคจรโลกกำลังถูกดึง

มั่นใจว่าพวกเราทุกคนคงพอจะรู้กันดีอยู่แล้วว่า วิถีโคจรของโลกทำให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมบนโลก นำไปสู่ช่วงกลางวัน-ช่วงกลางคืน มีการเปลี่ยนของอุณหภูมิ ฤดู ซึ่งสิ่งพวกนี้จะก่อให้เกิดผลกระทบต่อต้นไม้ พืช มนุษย์ และก็สิ่งมีชีวิตอื่นๆบนโลกอีกทอดหนึ่ง. โดยเหตุนี้เพื่อให้เกิดความปลอดภัย โลกพวกเราควรต้องจะหมุนรอบตนเองรวมทั้งรอบพระอาทิตย์ด้วยอัตราความเร็วและก็ระยะทางที่เป็นประจำ แม้กระนั้นปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์กลับศึกษาค้นพบว่าวงโคจรของโลกพวกเรากำลังถูกดึงให้ยืดออก!? แต่ว่ามันจะเป็นได้เช่นไร เพราะเหตุใดเส้นทางโคจรของโลกพวกเราถึงแปรไป และก็มันจะกำเนิดอะไรขึ้นอยู่กับโลกพวกเราบ้างก็ต้องตามไปดูพร้อมเพียงกันนะคะ เมื่อก่อนที่จะไปรับดูกัน อย่าลืมกดไลค์ แล้วก็กดติดตามเฟซบุ๊กแฟนเพจ ไว้ เพื่อเป็นอย่างยิ่งดวงใจให้กับเราด้วยนะคะ. ทดลองเล่นสลอต ก่อนที่จะพวกเราจะไปเอ่ยถึงการศึกษาและทำการค้นพบใหม่ พวกเราขอทวนเรื่องเส้นทางโคจรตามเดิมของโลก เพื่อเพื่อนพ้องๆที่บางครั้งอาจจะลืมหัวข้อนี้ไปแล้วได้รู้เรื่องกันอีกทีนะคะ โดยปกติโลกของพวกเราจะใช้เวลาหมุนรอบตนเองทั้งหมดทั้งปวงประมาณ23.56 ชั่วโมง ส่งผลให้เกิดขณะ 24 ชั่วโมง แม้กระนั้นเผื่อให้นับง่าย พวกเราจะตีเป็น 1 วันแทน รวมทั้งนอกเหนือจากหมุนรอบตนเองแล้ว โลกยังหมุนรอบพระอาทิตย์ดว้ยโดยใช้เวลารวมทั้งสิ้น 365 วัน หรือก็คือ 1 ปี ซึ่งโลกจะหมุนรอบพระอาทิตย์ที่อยู่ห่างออกไป 150 ล้านไมล์ด้วยความเร็ว 30 กม.ต่อวินาที. แม้กระนั้นปัจจุบันทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยรัตพบร์ส (Rutgers University) เมืองนิวพบร์ซีย์ ประเทศอเมริกา ได้ศึกษาค้นพบว่าวงโคจรของโลกที่เป็นวงรีถูกดึงให้ยืดออกกว่าเดิมถึง 5 เปอร์เซ็นต์ เพราะว่าแรงดึงดูดของดาวศุกร์และก็ดาวพฤหัสบดีที่โคจรเข้ามาใกล้. ทดลองเล่นสล๊อต…


ตรวจเจอคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าร้ายแรงกว่า ดาวพฤหัสฯ 1 ล้านเท่า

เมื่อเอ๋ยถึงดาวพระเคราะห์ที่มีดาวบริวารอยู่สูงที่สุด หนึ่งในนั้นก็ควรจะมีชื่อของดาวพฤหัสบดีติดอันดับอยู่ด้วยอย่างแน่แท้ โดยดาวพฤหัสบดีมีดาวบริวารทั้งหมดทั้งปวง 79 ดวง เป็นชั้นสองรองจากดาวเสาร์ที่มีดาวบริวารอยู่ทั้งมวล 82 ดวง แต่ว่าถึงแม้ว่าจะมีบริวารมากมาย ดาวพฤหัสบดีก็มีดาวบริวารสำคัญๆที่เป็นพระจันทร์ขนาดใหญ่อยู่เพียงแค่ 4 ดวงแค่นั้น โน่นเป็นพระจันทร์ไอโอ พระจันทร์ยูโรปา พระจันทร์แกนีมีด รวมทั้งพระจันทร์คัลลิสโต รวมทั้งวันนี้พวกเราจะมาเอ๋ยถึงเรื่องของพระจันทร์แกนีมีดกัน. พระจันทร์แกนีมีด (Ganymede) เป็นดาวบริวารของดาวพฤหัสบดีที่ถูกศึกษาและทำการค้นพบโดยกาลิเลโอ กาลิเลอี ในวันที่ 7 ม.ค. 1610 ทั้งยังถูกตั้งชื่อเรียกตัวละครหลวงเทวดาปกรณ์ภาษากรีก เนื่องด้วยดาวพฤหัสบดีเป็นผู้แทนของ “ซูส” เทวดาสูงสุดที่เขาโอลิมปัส คนดังมีชื่อเสียงเรื่องความเจ้าชู้ประตูดิน (มิน่าถึงมีดาวบริวารเยอะแยะขนาดนั้น) ฉะนั้นพระจันทร์บริวารของดาวประจำตัวซูสก็เลยถูกตั้งชื่อว่า “แกนีมีด” ตามชื่อพระราชโอรสรูปงามที่กรุงทรอยที่เทวดาซูสหลงใหลจนกระทั่งขั้นไปลักพาตัวมาเป็นผู้มอบพระสุลำธารสบนเขาโอลิมปัส. ทดลองเล่นสลอต ภาพซูสแล้วก็แกนีมีดรวมทั้งแม้ว่าพระจันทร์แกนีมีดจะเป็นเพียงแค่ดาวบริวาร แต่ว่ามันก็เป็นดาวบริวารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะ โดยมีลักษณะเด่นเป็นผิวดาวที่แบ่งได้ 2 ส่วน เป็นส่วนที่พื้นตะปุ่มตะป่ำ เต็มไปด้วยหลุมอุกกาบาตรวมทั้งแอ่งลึก กับส่วนที่เป็นหลักราบเรียบ เต็มไปด้วยน้ำแข็งแล้วก็ดินหิน. แต่ความน่าทึ่งของพระจันทร์แกนีมีดมิได้มีเท่านี้ ด้วยเหตุว่าปัจจุบันนักดาราศาสตร์ยังศึกษาและทำการค้นพบอีกด้วยว่าพระจันทร์แกนีมีดสามารถปลดปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าได้แรงกว่าดาวพฤหัสบดีที่มันเป็นบริวารอยู่ถึง 1 ล้านเท่า! แม้กระนั้นนักดาราศาสตร์ศึกษาค้นพบสิ่งนี้ได้อย่างไร รวมทั้งมันจะก่อให้เกิดผลเสียอะไรต่อโลกของพวกเราหรือไม่ ก็จำเป็นต้องไปตามมองกันนะคะ เมื่อก่อนที่จะไปรับดูกัน อย่าลืมกดไลค์ รวมทั้งกดติดตามเฟซบุ๊กแฟนเพจ ไว้…


เฟเอธอน ดาวลึกลับสีน้ำเงิน

ส่วนมากดวงดาวต่างๆในอวกาศชอบมีสีของดวงดาวที่เป็นสีเทาหรือสีน้ำตาลซึ่งเป็นสีของผิวของดาวดวงนั้นๆตามเพียงแค่ว่าพื้นดินของดาวจะมีธาตุอะไรเยอะที่สุด แล้วก็ดาวนพเคราะห์ทั่วๆไปก็ชอบได้รับพลังงานแสงสว่างจากดาวฤกษ์อาทิเช่นดวงตะวัน นำมาซึ่งการทำให้ดาวนพเคราะห์โดยมากมักมีสีแดงหรือสีส้มรำไร แต่ว่ามีดาวดวงหนึ่งในอวกาศ มีสีที่ต่างออกไป มันก็คือ “สีน้ำเงิน” ดาวนพเคราะห์สีน้ำเงินนี้จะเป็นเยี่ยงไร วันนี้เรา จะพาเพื่อนฝูงๆไปทำความรู้จักกับมันกัน เมื่อก่อนจะไปรับดู อย่าลืมกด Like กด Share รวมทั้งกดติดตามด้วยนะคะ. เมื่อปี คริสต์ศักราช 1983 นักดาราศาสตร์ได้ศึกษาและทำการค้นพบดาวนพเคราะห์น้อยดวงหนึ่งมีลักษณะพิเศษที่ไม่เหมือนกันกับดาวนพเคราะห์น้อยทั่วๆไปโน่นเพราะว่ามันมีสีน้ำเงิน ซึ่งการศึกษาค้นพบในคราวแรกก็สร้างความแปลกใจให้กับนักดาราศาสตร์มากมายก่ายกองว่าเพราะเหตุไรมันถึงมีสีน้ำเงินอย่างงั้น. ทดลองเล่นสลอต นักดาราศาสตร์ตั้งชื่อให้ดาวดวงนี้ว่า “เฟเอธอน” ซึ่งผู้ใดก็ช่างที่ได้ทำการวิจัยดาวดวงนี้ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่ามันเป็นดาวพระเคราะห์น้อยสีน้ำเงินที่พิศดารมากมายๆเพราะว่าสีน้ำเงินที่พวกเรามองเห็นนั้นเกิดขึ้นมาจากการสะท้อนออกมาจากผิว ซึ่งโดยปกติดาวนพเคราะห์ หรือดาวพระเคราะห์น้อยทั่วๆไปจะมีสีเทาหรือสีแดง ตามแต่ละองค์ประกอบของพื้นดินในดาวเเต่ละดวง แล้วส่วนประกอบอะไรถึงทำให้ดาวดวงนี้มีสีน้ำเงินสะท้อนออกมา แถมยังเป็นสีน้ำเงินที่เข้มมากมายเด่นในแถวกลุ่มดาวที่มันอาศัยอยู่. จากการสำรวจและก็การเล่าเรียนของนักดาราศาสตร์ได้พบว่าดาวเฟเอธอน มีคุณลักษณะรวมทั้งความประพฤติปฏิบัติคล้ายกับดาวหาง ซึ่งดาวหางนั้นมีส่วนประกอบเป็นก้อนหิมะแข็งที่มีส่วนประกอบเป็นหิน น้ำเเข็งและก็ฝุ่นละออง รวมทั้งก๊าซเยือกแข็งบางประเภท โดยถ้าเกิดมันได้รับพลังงานจากดาวฤกษ์จะมีผลให้น้ำแข็งที่อยู่รอบๆรอบๆระเหิดขึ้นมาเป็นไอ ทำให้พวกเราเห็นเป็นหาง ก็เลยทำให้เรียกว่าดาวหาง ซึ่งดาวหางจะมีเส้นทางโคจรที่เป็นวงรีที่เรียวมากมายๆปลายข้างหนึ่งจะอยู่ใกล้ดาวฤกษ์หรือดวงตะวัน ส่วนอีกข้างหนึ่งจะอยู่ไปทางภายนอกของระบบสุริยะ. ทดลองเล่นสล๊อต ซึ่งดาวเฟเอธอนนี้เองก็มองคล้ายกับว่าจะมีความเกี่ยวเนื่องบางสิ่งบางอย่างกับดาวหาง เพราะว่านอกเหนือจากที่มันจะมีเส้นทางโคจรที่มีทิศทางคล้ายกับดาวหางแล้ว ดาวเฟเอธอนยังน่าจะเป็นต้นเหตุของฝนดาวตกเจไม่นิดส์ ซึ่งเป็นกรุ๊ปของฝนดาวตกกรุ๊ปหนึ่ง โดยปกติการเกิดปรากฎการณ์ฝนดาวตกจะเกิดขึ้นเมื่อโลกโคจรผ่านเศษฝุ่นผงที่ดาวหางปล่อยทิ้งเอาไว้ตามวิถีโคจร โดยถ้าหากว่าดาวหางโคจรมาตัดกับวิถีโคจรของโลกขณะใดก็จะกำเนิดฝนดาวตกตรงนั้น รวมทั้งดาวเฟเอธอนเองนั้นก็เป็นที่มาของฝนดาวตกเจไม่นิดส์ เนื่องจากว่าเส้นทางโคจรของฝนดาวตกกลุ่มนี้ดันไปอย่างกับเส้นทางโคจรของดาวเฟเอธอน. ก่อนหน้าที่นักดาราศาสตร์จะเจอดาวเฟเอธอน พวกเขาต่างตั้งข้อสมมติฐานว่าฝนดาวตกนั้นเกิดขึ้นมาจากดาวหาง โดยไม่คาดคิดถึงว่ามันคงจะมีสาเหตุมาจากดาวพระเคราะห์น้อย จนกระทั่งเขามาเจอดาวเฟเอธอน ซึ่งมีวิถีโคจรที่คล้ายกับดาวหาง และก็เป็นได้ว่า…


เจอ “กำแพงไฟ” สุดขอบระบบสุริยะ

แต่ก่อน ขณะที่เทคโนโลยีด้านอวกาศยังไม่ปรับปรุงมากเท่าไรนัก มนุษย์เราก็มั่นใจว่าโลกของพวกเราแบนดังแพนขนมเค้ก ถ้าเกิดพวกเราออกเรือไปจนถึงสุดขอบโลก คนบนเรือก็จะตกโลกตายกันหมด แต่ว่าปัจจุบันนี้เทคโนโลยีด้านอวกาศของพวกเราปรับปรุงมากยิ่งกว่าเดิมแล้ว มนุษย์เราสามารถส่งยานตรวจขึ้นอวกาศเพื่อพิสูจน์ว่าโลกกลมได้ แต่ว่าเพื่อนพ้องๆเคยสงสัยกันไหมว่าแล้ว “สุดขอบ” ระบบสุริยะล่ะมีหน้าตาเป็นยังไง วันนี้เรา ได้หาคำตอบมาให้ท่านแล้ว เมื่อก่อนที่จะไปรับดูกัน อย่าลืมกดไลค์ รวมทั้งกดติดตามเฟซบุ๊กแฟนเพจ ไว้ เพื่อเป็นอันมากหัวใจให้กับเราด้วยนะคะ. สหายๆที่เป็นแฟน จำเรื่อง “ส่งข้อความถึงเอเลี่ยนผ่าน ‘แผ่นบันทึกทอง’” ที่พวกเราเคยพรีเซนเทชั่นไปก่อนหน้าที่ผ่านมาได้รึเปล่าขา ถ้าคนใดกันแน่เคยอ่านแล้วจำไม่ได้ หรือยังไม่เคยอ่านเลย ประเดี๋ยวพวกเราจะสรุปสั้นๆให้ฟัง แต่ว่าหากคนไหนกันต้องการอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมก็สามารถกดลิ้งค์เข้าไปอ่านบทความเต็มไปเลยจ้ะขา. ทดลองเล่นสลอต โปรเจกต์แผ่นบันทึกทองนี้เป็นโปรเจกต์ของยานวอยเอจพบร์ โดยคณะทำงานจากองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติจะนำเมดเลย์ภาพและก็เสียงที่เป็นผู้แทนของโลก ยกตัวอย่างเช่น เสียงปลาวาฬ เสียงคลื่น คำกล่าวทักทายของมากมายประเทศทั่วทั้งโลก เพลงที่ชี้ให้เห็นถึงวัฒนธรรมต่างๆอื่นๆอีกมากมาย ใส่ลงไปในแผ่นบันทึกทองแล้วส่งขึ้นอวกาศไปกับยานวอยเอจพบร์ 1 (Voyager 1) และก็ วอยเอจพบร์ 2 (Voyager 2) ในวันที่ 20 เดือนสิงหาคม 1977. โปรเจกต์นี้ราวกับโยนขวดพร้อมใจความ SOS ลงในสมุทร โดยหวังว่าวันหนึ่งมนุษย์ดาวอื่นผู้ทรงความคิดจะบังเอิญพบแผ่นบันทึกนี้เข้าแล้วเอาไปเปิดฟัง มนุษย์ดาวอื่นจะได้ทราบว่ามีดวงดาวที่สวยชื่อว่าโลกอยู่แล้วก็บางทีก็อาจจะต้องการมาเยี่ยมเยือนพวกเราบ้าง. ทดลองเล่นสล๊อต แล้วก็นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไปก็จะเกิดเรื่องราวการศึกษาและทำการค้นพบครั้งใหม่ เนื่องจากภายหลังที่ยานวอยเอจพบร์…