“Le Voyage dans la Lune” หรือ “A Trip to the Moon” (1902) หนังเงียบขาวดำประเทศฝรั่งเศส(สมัยถัดมาก็มีการทำเวอร์ชั่นย้อม) ดูแลโดย Georges Méliès … ได้ถือกันว่า เป็น หนังไซ-ไฟ เรื่องแรกของโลก กล่าวถึงมนุษยชาติไปพระจันทร์! ออกฉายก่อนที่จะมนุษย์สามารถเหยียบพื้นพระจันทร์ได้จริงๆถึง 67 ปี ( *หมายเหตุ… ยาน Luna 2 ยานของรัสเซีย เป็นยาน(ไม่มีมนุษย์) หรือเป็นวัตถุประดิษฐกรรมแรกจากโลกที่ไปถึงพื้นพระจันทร์ เมื่อ 13 September 1959 , รวมทั้งสิบปีถัดมา Neil Armstrong คนประเทศอเมริกา เป็นมนุษย์คนแรกที่เหยียบพื้นพระจันทร์ ด้วยยาน Apollo 11 ตอนวันที่ 21 July 1969) :: เกริ่นนำ ทรรศนะการให้ความหมาย “ไซ-ไฟ” ของผู้ทรงคุณวุฒิ“ไอแซก…
สิ่งมีชีวิตต่างดาว บทที่ 1: หลักฐานการมีอยู่ของเอเลี่ยน
ชีวิตนอกโลกโดยความหมายก็คือ ชีวิตใดๆก็ตามที่มิได้มีรกรากอยู่ข้างในโลก ชีวิตดังที่กล่าวถึงแล้วบางทีอาจเป็นได้ตั้งแต่สิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวอย่าง ‘โพรแคริโอต’ (prokaryote) ตลอดกาลจนกระทั่งลักษณะของชีวิตที่มีความซับซ้อน หรือนอกเหนือจากนั้นก็คือ ลักษณะของชีวิตที่อาจมีอารยธรรมล้ำหน้าไปมากกว่าพวกเรา! ซึ่งตามสมการของเดเกลื่อนกลาด (Drake equation) ที่ถูกเขียนขึ้นโดย Dr. Frank Drake เมื่อปี คริสต์ศักราช 1961 ก็ได้ใช้แนวความคิดตามหลักความเป็นไปได้ (Probability theory) เข้ามาช่วยในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการติดต่อและทำการสื่อสารกับสิ่งมีชีวิตข้างในกาแล็กซี่กาแลคซี่ทางช้างเผือกของพวกเราได้ โดย The Drake equation บอกว่า มิได้มีจุดหมายเพื่อต้องการจะรู้ดีว่ามีปริมาณของอารยธรรมมากแค่ไหน แม้กระนั้นเนื้อหาส่วนที่มีความสำคัญก็คือเพื่ออยากได้ไปกระตุ้นว่า พวกเราจะค้นหาสัญญาณแรกของอารยธรรมต่างดาวเจอได้เมื่อใดต่างหาก! โดยแม้พวกเราอิงฐานรากจากความนึกคิดด้านวิทยาศาสตร์ของเทคโนโลยีต่างดาวก็คือ พวกเขาควรจะมีการติดต่อสื่อสารผ่านเครื่องไม้เครื่องมือทางคลื่นวิทยุได้เหมือนกับมนุษย์เรา โดยเหตุนี้แล้วถ้าเกิดพวกเราอยากที่จะค้นหาอารยธรรมชั้นสูงด้านนอกโน่น สิ่งจำเป็นสุดไม่แพ้กันกับแนวทางอื่นๆเลยก็คือ การยอมรับฟังเสียงที่ส่งออกมาจากพวกเขา โดยนักวิทยาศาสตร์ที่เรียนรู้ลักษณะของชีวิตต่างดาวพวกเราชอบเรียกว่า Exobiology ทดลองเล่นสลอต ภาพวาดโดย Richard Bizley ที่จินตนาการถึงอนาคตที่มนุษย์สามารถเดินทางไปตรวจผิวของพระจันทร์ Enceladus ที่ตอนนี้นักวิทยาศาสตร์คาดว่าอาจมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ใต้ผิวของดาวภาพวาดโดย Richard Bizley ที่จินตนาการถึงอนาคตที่มนุษย์สามารถเดินทางไปตรวจผิวของพระจันทร์ Enceladus ที่ตอนนี้นักวิทยาศาสตร์คาดว่าอาจมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ใต้ผิวของดาวตั้งแต่กึ่งกลางสมัยศตวรรษ 20 ก็ได้กำเนิดงานศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยที่เกี่ยวกับการค้นหาสิ่งมีชีวิตที่มาจากนอกโลกอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวมาย เนื่องมาจากในสมัยนั้นการแข่งขันชิงชัยทางด้านอวกาศได้มีการปะทุกันอย่างถึงใจถึงอารมณ์ระหว่าง ประเทศอเมริกา แล้วก็รัสเซีย ซึ่งก็ได้ทำให้เทคโนโลยีทางอวกาศได้มีการปรับปรุงไปอย่างยิ่งในเวลาแค่ไม่กี่สิบปี!…
แนวคิดคบคิด การศึกษาและทำการค้นพบมนุษย์ดาวอื่น ของ อะพอลโล 20 (ลวงโลก)
แนวคิดคบคิด การศึกษาและทำการค้นพบมนุษย์ดาวอื่น ของ อะพอลโล 20 (ลวงโลก)โดยเรื่อง Apollo 20 (hoax) นั้นเกิดเรื่องราวที่บอกกล่าวเกี่ยวกับ ภารกิจลับของสหรัฐ ที่แทรกแซงการปฏิบัติงานของภารกิจตรวจสอบพระจันทร์ในช่วงปลายของ แผนการอะพอลโล่ ซึ่งในภารกิจลับนี้ได้เปิดเผยให้มองเห็นถึง หลักฐานการมีอยู่ของอารยธรรมต่างดาว บน พระจันทร์ทางฝั่งไกล (ด้านมืดของพระจันทร์) ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดทั้งปวงถูกเล่าผ่าน สื่อวิดีโอออนไลน์มีชื่อเสียงอย่าง YouTube โดย User ที่ใช้นามว่า ‘retiredafb’ ในเมษายน ปี คริสต์ศักราช 2007 (พุทธศักราช 2550) ที่เปิดเผยให้เห็นภาพต่างๆที่ถ่ายเอาไว้ได้ในแผนการตรวจพระจันทร์ ดังเช่นว่า แนวทางบินของภารกิจอะพอลโล่ 20, ภาพการปล่อยตัวยานอวกาศ อะพอลโล่ 20 โดยจรวดแซตเทิร์น 5 (Saturn V), วิลเลียม รัตลีดจ์ (William Rutledge) ขณะเดินอยู่บนพระจันทร์, ยานอวกาศเอเลี่ยนที่เสีย, ซากของเมืองมนุษย์ดาวอื่น และก็ที่เด็ดสุดเป็น การพบเจอร่างจำศีลของผู้คนต่างดาวสตรีที่มีชื่อเล่นว่า ‘โมนาลิซา’ (Mona Lisa) !…
จานบิน (UFO) ลักษณะของ แขก
จะมองเห็นได้ว่าเทคโนโลยีการเดินทางผ่านอวกาศ ทั้งยังแบบจรวดปฏิสสาร แล้วก็ การวาร์ปนั้น ถึงจะสามารถตอบปัญหาในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบรรลุความเร็วได้กระทั่งเกือบจะใกล้เคียงกับความเร็วแสงสว่าง หรือไปได้เร็วกว่าความเร็วแสงสว่างในระบบวาร์ปไดรฟ์ ก็ยังมีปัญหานานับประการล้นหลามตามมาอีก และก็ที่สำคัญสุดก็คือในเรื่องของความปลอดภัยอีกทั้งกับลูกเรือด้านในยาน และก็ความปลอดภัยต่อสิ่งมีชีวิตในระบบดวงดาวที่มันเขยื้อนผ่าน ด้วยเหตุนั้นการจะเดินทางผ่านอวกาศด้วยความเร็วสูงเฉียดฉิวแสงสว่าง ก็เลยดูเหมือนจะเกิดขึ้นได้ยากเอามากๆสำหรับเทคโนโลยีมนุษย์เราในตอนนี้ แต่ว่าสำหรับสังคมอารยธรรมในสิ่งมีชีวิตชั้นสูงกว่าพวกเรา ไม่แน่พวกเขาบางทีอาจสามารถควบคุมอีกทั้งในเรื่องของความเร็ว, การย่นย่อระยะทาง รวมทั้งมีระบบระเบียบป้องกันตัวที่ดีอยู่รวมทั้งเป็นไปได้ จากนี้ไปในรายละเอียดที่กำลังจะได้เล่าหลังจากนี้ พวกเราจะมาศึกษาค้นคว้าถึงแบบอย่างการมาเยี่ยมของสิ่งมีชีวิตทรงภมูิสติปัญญาจากต่างดาวกันว่า ถ้าเกิดพวกเขาได้เคยมาเยี่ยมพวกเราจริง หรือกำลังท่องอยู่ในอวกาศที่ใหนสักที่อยู่ แบบอย่างการมาเยี่ยมของพวกเขานั้นจะเป็นอย่างไร ยานแม่ (Mother ship) ทดลองเล่นสลอต การมีอยู่ของยานแม่ และก็เป้าประสงค์การมาเยี่ยม นับว่าเป็นพื้นฐานสำคัญของแนวคิดการเดินทางในอวกาศระหว่างดวงดาวของเอเลี่ยน ที่ค้นพบว่าระยะห่างในแต่ละที่ในอวกาศนั้น มันไกลเกินกว่าที่ยานลำเล็กๆอย่างยูเอฟโอจะสามารถมีพลังขับมากพอ ที่จะเดินทางผ่านอวกาศได้นั่นเอง สิ่งเปรียบเพื่อที่จะได้ให้พวกเรารู้เรื่องคำว่ายานแม่ก็คือ เรือบรรทุกเรือบินของคนเรา ที่ใช้ในลัษณะของการเดินทางผ่านห้วงสมุทรอันกว้างขวาง โดยมีจุดหมายก็คือการนำพาเรือบินไปปฎิบัติการยังสถานที่จุดหมายได้อย่างมีคุณภาพ ต่อนี้ไปกลับมาที่ยานแม่ของคนเราต่างดาว ในการเดินทางผ่านระบบดาวบางภารกิจ บางทีอาจจึงควรใช้เวลาสำหรับในการเดินทางนานนับพันปี ด้วยเหตุผลดังกล่าวยานแม่จึงต้องควรที่จะถูกวางแบบมาให้มีขนาดใหญ่มากพอ ที่จะสามารถสร้างระบบนิเวศของของกินขึ้นเองได้ด้านในตัว แล้วก็ผู้เดินทางคนที่มาพร้อมกับยานลำดังกล่าวมาแล้วข้างต้นก็บางทีอาจจะจะต้องกำเนิด, เติบโต รวมทั้งตายไปในหลายๆเลวรุ่น เพื่อเอาชนะตอนที่นานในอวกาศระหว่างเดินทางไปยังเป้าหมาย แม้กระนั้นก็มีความน่าจะเป็นอยู่ว่า มนุษย์ดาวอื่นบางทีอาจสามารถจัดการกับปัญหาของการรออันแสนจะช้านานนี้ได้ ด้วยการใช้เทคโนโลยีชะลออายุ (Suspended animation) ดังเช่นว่าการหลับจำศีลอยู่ด้านในห้องที่จัดแจงไว้แล้วรอการปลุกให้ตื่นอีกครั้ง ครั้งเมื่อยานได้เดินทางไปถึงจุดหมายแล้วฯลฯ การออกแบบยานแม่ สำหรับในการเอาชีวิตรอดจากขณะที่นานขณะท่องอวกาศเองแล้ว มนุษย์ดาวอื่นยังควรต้องพบเจอกับปัญหาอีกหนึ่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยก็คือ อันตรายของการแผ่รังสีจากเครื่องยนต์กลไกจรวด โดยเหตุนี้ทางออกอีกหนึ่งแบบสำหรับเพื่อการดีไซน์ยานแม่ก็คือ…
จานบิน (UFO) การวาร์ป แล้วก็ จรวดปฏิสสาร
จากแหล่งพลังงานเชื้อเพลิงเคมี, แรงกดดันโฟตอน, หรือแม้กระทั้งพลังงานจากปฏิกิริยานิวเคลียร์อีกทั้งแบบปฏิกิริยาฟิชชันรวมทั้งฟิวชันเอง ดังที่ได้เคยเล่าถึงจากเวลาที่แล้ว เทคโนโลยีดังกล่าวมาแล้วข้างต้นก็ยังไม่พอที่จะตอบปัญหาให้กับพลังเคลื่อนของยานท่องอวกาศ ได้เขยื้อนใกล้กับความเร็วแสงสว่างได้เลย ด้วยเหตุดังกล่าวการค้นหาวิทยาการใหม่ๆที่อาจมีความน่าจะเป็น ของสิ่งมีชีวิตทรงความคิดจะได้ประยุกต์ใช้ ก็เลยจึงควรล้ำหน้าไปมากกว่านี้อีกขั้น โน่นเป็นเทคโนโลยีจากพลังงานปฏิสสาร แล้วก็ระบบ วาร์ป ไดรฟ์ จรวดปฏิสสาร (Antimatter rocket) เพื่อที่พวกเราจะสามารถทำความเข้าใจถึงระบบรูปแบบการทำงานของเครื่องจักรจรวดปฏิสสารได้ พวกเราจำเป็นที่จะต้องทราบมาจะกับเจ้า ปฏิสสาร (Antimatter) กันซะก่อน โดยในทางฟิสิกส์ยุคใหม่พวกเราศึกษาค้นพบแล้วว่า ปฏิสสารมีอยู่จริงๆในจักรวาล ซึ่งคำอธิบายศัพท์ของซึ่งก็คือสสารที่มีขั้วประจุอนุภาคตรงกันข้ามกัน เป็นต้นว่าถ้าหากวัตถุใดๆถูกผลิตขึ้นมาจากอนุภาคขั้วตรงกันข้าม และก็ครั้งเมื่อวัตถุทั้งคู่ ได้มีการสัมผัสกันขึ้นก็จะกำเนิดสิ่งที่เรียกว่าการปล่อยพลังงาน จนกระทั่งก่อให้การแผ่รังสีแม่เหล็กไฟฟ้าออกมาอย่างมากมาย ซึ่งถ้าหากว่าพวกเราต้องการรู้ว่าพลังงานที่ปล่อยออกมาโน่นมีอยู่จำนวนมากแค่ไหน พวกเราก็สามารถคำนวณได้จากสมการอันเลื่องลือของไอน์สไตน์ E=mc2 เมื่อ E เป็นค่าพลังงาน m เป็นมวลสาร รวมทั้ง c เป็นความเร็วแสงสว่าง ด้วยเหตุผลดังกล่าวด้วยมวลเพียงแต่น้อยนิดก็สามารถส่งผลให้เกิดการปะทุเป็นพลังงานที่ยิ่งใหญ่ออกมาได้นั่นเอง ด้วยวิธีการนี้เพียงพวกเรานำสองอนุภาคที่มีประจุขั่วตรงกันข้ามกันมาชนกัน พวกเราก็จะสามารถสร้างแรงกระตุ้นอันเป็นอย่างมากให้กับเครื่องจักรกลจรวด แม้กระนั้นปัญหามีอยู่ว่าแล้วพวกเราจะหาปฏิสสารมาจากไหน รวมทั้งจากการเรียนรู้ของนักวิทยาศาสตร์ ก็มีคำตอบไว้ให้สำหรับประเด็นนี้อยู่เหมือนกัน โดยการเก็บเกี่ยวปฏิสสารในตอนนี้ พวกเราศึกษาและทำการค้นพบว่ามีอยู่ร่วมกัน 2 แนวทาง ทดลองเล่นสลอต แนวทางแรกเป็นการดักจับปฏิสสารจากรังสีคอสมิกในอวกาศ ซึ่งพบว่าอนุภาคจากรังสีคอสมิกที่แบออกมาจากดวงตะวันนั้น ในรูปทรงน้อยกว่าปริมาณร้อยละ 1 จะประกอบไปด้วยปฏิสสารเช่น…
ยูโฟ (UFO) เทคโนโลยียานอวกาศ ของผู้คนต่างดาว
อีกหนึ่งปัญหาของการเดินทางระหว่างดวงดาว ที่สิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญา หรือแม้แต่มนุษย์เราเองจะต้องเจอคือ ระยะทางในอวกาศที่ไกลเอามากๆ ดังนั้นจากตอนที่แล้ว ที่เราได้กล่าวถึงจานบินต่างดาวในโลกความเป็นจริงไป ที่พวกเขาจะต้องพบกับภัยอันตรายของแรงจี, ความพยายามในการการอำพรางตัวจากผู้ที่พบเห็น และรวมไปถึง การลบเสียงจากคลื่นกระแทกต่างๆนั่น ทั้งหมดอาจจะไม่เกิดขึ้นเลย หากพวกเขาไม่สามารถเดินทางมาเยือนโลกเราได้ตั้งแต่ต้นดังนั้นโอกาสที่มนุษย์ต่างดาวจะมาเยือนโลกของเราจึงมีความเป็นไปได้น้อยมากๆ เพราะสิ่งที่จะเป็นปัญหาหลักในการท่องไปในอวกาศก็คือระยะทาง ซึ่งระยะทางระหว่างดวงดาวไม่ใช่ใกล้ๆเลยในแต่ละที่ แต่ถ้าหากพวกเขาสามารถพิชิตปัญหาเรื่องการเดินทางได้อันนี้ก็ไม่แน่ เช่นพวกเขาอาจมีเทคโนโลยีเดินทางข้ามอวกาศที่ล้ำกว่ามนุษย์โลกหลายพันปี ,หมื่น, หรือล้านปี จนสามารถเอาชนะกฎทางฟิสิกส์ในเรื่องของการเคลื่อนที่ได้เป็นต้น แม้เทคโนโลยีท่องอวกาศสมัยใหม่ของเรา จะยังอยู่ในขั้นพัฒนาก็ตาม แต่องค์ความรู้ในทางวิทยาศาสตร์มนุษย์ ก็ยังพอมีคำตอบให้สำหรับเรื่องนี้อยู่เช่นกัน ทั้งในเรื่องของการย่นระยะทางระหว่างดวงดาว และแรงขับเคลื่อนอันมหาศาลของยานอวกาศที่แผ่รังสีออกมา จนอาจมองเห็นได้ไกลจากอวกาศนับปีแสงกันเลยทีเดียวรายงานการพบเห็นยานบินอวกาศต่างดาวจากนอกโลกในตลอดระยะเวลาในช่วงครึ่งศตวรรษหลัง มีรายงานการพบเห็น UFO จากทั่วโลกในหลายๆประเทศ ซึ่งทั้งหมดนี้เราอาจได้ยินข่าวมาบ่อยจนเริ่มจะชินกับมันไปแล้ว แต่สำหรับรายงานการพบเห็น UFO จากนอกโลกจะเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นกว่านี้ เช่นการพบเห็นวัตถุปริศนาเคลื่อนที่ผ่านกระสวยอวกาศเอนเดฟเวอร์ (Endeavour) เมื่อปี 2009 ที่รูปร่างลักษณะของมันดูเหมือนจะคล้ายกับจานบินคลาสสิก ที่กำลังเคลื่อนที่ผ่านเหนือชั้นบรรยากาศโลก ซึ่งในกรณีนี้เราอาจมองได้ว่ามันคือขยะอวกาศได้เช่นกัน ที่ปัจุบันพบว่ามันมีอยู่เป็นจำนวนมากถึง 3 หมื่นชิ้นที่มีขนาดตั้งแต่ 10 เซนติเมตรขึ้นไป และเร็วๆนี้ก็คือการมาเยือนของวัตถุอวกาศปริศนาจากห้วงอวกาศลึก อย่างโอมูอามูอา ที่นักวิทยาศาตร์ถึงกับต้องตะลึงกับรายงานใหม่ที่พบว่า มันสามารถเร่งความเร็วตัวเองให้หนีออกไปจากระบบสุริยะได้อย่างน่าประหลาดใจ นี่จึงทำให้เกิดทฤษฎีต่างๆนาๆออกมามากมายเช่น โอมูอามูอา อาจเป็นยานอวกาศหรือเรือใบอวกาศจากต่างดาวเป็นต้นแต่หากว่ามนุษย์ต่างดาวได้เคยมาเยือนเรา หรือกำลังสอดส่องโลกอยู่ ณ ขณะนี้จริง…
โอมูอามูอา (Oumuamua) วัตถุปัญหาจากห้วงอวกาศลึก
หน้าที่อย่างหนึ่งของทุ่งนาซ่าก็คือการตรวจค้นแล้วก็เฝ้าระวังภัยอันตรายจากชิ้นส่วนของวัตถุน้อยใหญ่ต่างๆในห้วงอวกาศ ดังเช่นว่า เศษหินที่บางทีอาจหลุดกระเด็นมาไกลจากการเผชิญหน้ากันในแถบดาวนพเคราะห์น้อย, หรือบางทีอาจจะเป็นดาวหางอันเกิดขึ้นจากในตอนก่อร่างสร้างพระอาทิตย์ที่โคจรเฉียดฉิวเข้ามาใกล้ และก็ รวมถึงวัตถุเขยื้อนปัญหาอื่นๆจากระบบดาวฤกษ์เพื่อนบ้าน ที่บางทีอาจเดินทางมาเยี่ยมระบบสุริยะของพวกเราได้ ตัวอย่างเช่นในกรณีของ โอมูอามูอา (Oumuamua อ่านออกเสียงว่า ‘โอมัวมัว’) ฯลฯ ซึ่ง โอมูาอมูอา ถูกศึกษาและทำการค้นพบได้เป็นครั้งแรกโดยนักฟิสิกส์และก็นักดาราศาสตร์นามว่า โรเบิร์ต เวริก (Robert Weryk) ขณะที่ทำการตรวจค้นวัตถุผู้ต้องสงสัยจากฟ้าผ่านกล้องส่องทางไกล แพน-สตาร์ส 1 (Pan-STARRS 1)ในหอสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์ ฮาเลอาค้างลา, เมืองฮาวาย, อเมริกา (Haleakala Observatory, Hawaii, USA) ตอนวันที่ 19 ต.ค. ปี คริสต์ศักราช 2017 ซึ่งนี่ก็เป็นระยะเวลานานมาแทบ 50 ปีแล้ว ตั้งแต่แมื่อนาซ่าเริ่มตั้งใจจริงกับการสังเกตการณ์มองหาแขกจากดินแดนไกลอย่าง โอมูอามูอา ทั้งยังการมาเยี่ยมของมันในคราวนี้ (รวมทั้งหนสุดท้าย) ก็ถือว่า นี้เป็นการตรวจเจอวัตถุระหว่างดวงดาวที่โคจรเขยื้อนผ่านเข้ามายังระบบสุริยะของพวกเราได้เป็นครั้งแรกอีกด้วย ยังน้อยเกินไปเท่านี้ นอกจากไปจากการมาเยี่ยมของมันจะเป็นการรับรองว่า โลกของพวกเรานั้นมิได้อยู่อย่างสันโดษในอวกาศแล้ว นักวิทยาศาสตร์ยังเจออีกว่าการกระทำการเคลื่อนที่ของ โอมูอามูอา ยังสามารถเปลี่ยนความเร่งของตนเองได้ขณะโคจรอยู่ในระบบสุริยะ! รวมทั้งรวมถึงรูปร่างที่เรียวยาวอย่างแตกต่างจากปกติของมันก็ด้วย นี่ก็เลยทำให้หลายท่านอดที่จะคิดสงสัยมิได้เลยว่า…
ยูโฟ (UFO) ในโลกที่เรื่องจริง
มีคำเล่าขานถึงการปรากฏตัวของยานบินต่างดาวอยู่เยอะมากจากทั่วทุกมุมโลก ตั้งแต่อดีตกาลเรื่อยๆมาจนกระทั่งเดี๋ยวนี้ จากทรงคลาสสิคของยานบินในรูปแบบของทรงจาน, ซิก้า ,ทรงสามเหลี่ยม และก็อื่นๆผ่านในแต่ละช่วง มนุษย์ดาวอื่นพวกนั้นกำลังแอบดูพวกเราอยู่หรือไม่ แล้วเพราะเหตุไรพวกเขาถึงไม่ยินยอมแสดงตัวให้พวกเรามองเห็นอย่างเป็นทางการเลยล่ะ แล้วถ้าเกิดมนุษย์ดาวอื่นมาได้เคยมาเยี่ยมพวกเราจริง พวกเขาเดินทางผ่านอวกาศอันกว้างใหญ่ไพศาลที่นี้มาได้เช่นไร แล้วพวกเขาใช้เทคโนโลยียานอวกาศแบบไหนถึงมาเยี่ยมโลกของพวกเราได้ หรือพวกเขาบางทีอาจเคยได้ติดต่อกับมนุษย์โลกมาแล้วจริงๆในสมัยก่อน หรือ บางทีอาจได้เคยถูกมนุษย์โลกจับกุมมาแล้วตามเดิมเป็นข่าวที่เป็นที่รู้จักอย่างยูเอฟโอตกที่คอยสเวลล์เมื่อปี 1947 ที่รัฐบาลสหรัฐบางทีอาจได้เคยปกปิดมันเอาไว้ จุดเริ่มแรกของเรื่องราวยูเอฟโอ UFO ทดลองเล่นสลอต เรื่องราวของยูเอฟโอต่างดาว หรือ UFO ทั้งหมดทั้งปวงเริ่มขึ้นช่วงวันที่ 24 เดือนมิถุนายน 1947 โดยนักบินคนอเมริกันแล้วก็นักธุรกิจนามว่าเค็นเน็ธ อาร์โนลด์ (Kenneth Albert Arnold) ในวันนั้นตอนที่เขากำลังทำบินจากเมืองชาเฮลริส (Chehalis) สู่ เมืองยาคิมา (Yakima) ในเมืองวอชิงตันเดียวกัน ด้วยเรือบินรุ่นคอลเครื่องปรับอากาศ เอ-2 (CallAir A-2) ในเที่ยวบินรับจ้างตรวจค้นซากเรือบินตกของกองทัพอากาศรุ่น C-46ในจุดตกใกล้ๆกับเทือกเขาเรนเนียร์ (Mt. Rainier) อยู่นั้น กลางทางอาร์โนลด์อ้างถึงว่าเขามองเห็นยานบินลึกลับที่บินเร็วอย่างเปลี่ยนไปจากปกติปริมาณ 9 ลำ บนฟ้า ซึ่งถัดมาเหตุในตอนนั้นก็ได้ถูกตั้งชื่อว่า Kenneth Arnold UFO sighting…
สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่แบบนี้ มีอยู่ได้จริงไหม ?
สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่แบบนี้ มีอยู่ได้จริงไหม ?นี้เป็นหัวข้อที่ถูกตั้งถามขึ้นใน pantip.com โดยสมาชิกเลขลำดับ 2756120 ตอนวันที่ 5 เดือนมิถุนายน 2016 ซึ่งผมได้ทำเรียบเรียงคำตอบนิดหน่อย มาได้ดังต่อไปนี้ 1.เป็นได้ยากสำหรับเพื่อการยังคงอยู่ เพราะเหตุว่าด้วยแรงดึงดูดอันอย่างใหญ่โตของตัวมันเอง จะไปทำให้เซลล์ภายในสุดของสิ่งมีชีวิตนี้ ได้บีบอัดกันจนกระทั่งนำไปสู่ความร้อนสะสมมากเกินความจำเป็น แล้วก็ในความเป็นจริงเป็น ไม่มีดาวนพเคราะห์หินดวงไหน ที่จะมีขนาดใหญ่พอเพียง จะมารองรับสิ่งมีชีวิตนี้ได้ (ถ้าเกิดมีดาวเคราะห์ของสิ่งมีชีวิตดังภาพจริง ดาวพระเคราะห์ดวงนั้นก็จำเป็นจะต้องใหญ่เท่าๆกับพระอาทิตย์) ทดลองเล่นสลอต ทั้งยังตามหลักของเรื่องจริงแล้ว หากว่าดาวพระเคราะห์ดวงใด มีมวลสารรวมตัวกันอยู่มากมาย แรงดึงดูดต่ออนุภาคของสสารเองก็ย่อมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆรวมทั้งบีบอัดกันจนกระทั่งกำเนิดความร้อนสะสม แล้วก็บางทีอาจสามารถจุดระเบิดจนถึงเปลี่ยนเป็น ปฏิกิริยาปรมาณู Fusion แล้วก็เปลี่ยนเป็นดาวฤกษ์ไปในตอนท้าย ด้วยเหตุดังกล่าว ด้วยเหตุแล้วก็ผลก็คือ ไม่น่าจะมีสิ่งมีชีวิตอะไร ซึ่งสามารถอาศัยอยู่บนดาวฤกษ์อันเร่าร้อนได้นั่นเอง รวมทั้งด้วยวิชาความรู้ที่พวกเรามีอย่าง E=mc^2 ของนักฟิสิกส์ดังอย่าง อัลเบิร์ต ไอสไตน์ ก็ได้เคยชี้แจงว่า ในจักรวาลที่นี้ อนุภาคที่มีมวลสารใดๆก็ตามไม่บางทีอาจสามารถเคลื่อนได้เร็วกว่าแสงสว่าง รวมทั้งธาตุส่วนประกอบ ฐานรากของ จักรวาลหมายถึงไฮโดรเจนเป็นส่วนมาก, ส่วนธาตุ ส่วนประกอบในเบื้องต้น ของสิ่งมีชีวิตที่พวกเรารู้จัก ก็ต้องมี คาร์บอน ไฮโดรเจน แล้วก็ อ๊อกซิเจน ทั้งยังธาตุทั้งหลายแหล่ที่อยู่ในตารางธาตุจำนวนมากก็ล้วนเกิดมาจาก…
บางทีอาจเคยมีอารยธรรมที่เจริญรุ่งเรืองมากมายในสมัยก่อนแม้กระนั้นล่มสลายไป!
เป็นได้ไหมที่มนุษย์เรา บางทีอาจเคยมีอารยธรรมที่เจริญมากมายๆในอดีตกาล แต่ว่าล่มสลายไป – Pantipนี้เป็นหัวข้อที่ถูกตั้งปัญหาเอาไว้ภายใน pantip.com โดยสมาชิกลำดับที่ 1071992 ช่วงวันที่ 11 เดือนกรกฎาคม 2018 ซึ่งผมมีความเห็นว่ามันเป็นหลักสำคัญที่น่าดึงดูดทั้งยังปริศนาแล้วก็คำตอบ ผมเลยได้กระทำเรียบเรียงข้อมูลมาไว้ดังนี้ *หมายเหตุ: คำในเครื่องหมายวงเล็บเป็นสิ่งที่ผมเพิ่มเติมเสริมเข้าไป และก็อาจมีการแก้ไขคำบอกเล่าให้อ่านรู้เรื่องได้ง่ายมากยิ่งขึ้น หากผมเรียบเรียงพลาดอย่างไรก็จะต้องขอโทษล้วงหน้าไว้ในที่ที่นี้ด้วย ส่วนที่ 1 : ปัญหา+คำสงสัย มีหลักฐานหลายชนิดทางโบราณคดีวิทยาที่นักวิทยาศาสตร์ยังหาคำตอบมิได้ แล้วก็ยังเป็นของที่มองล้ำยุคอยู่ อย่างเช่นภาพวาดโบราณ ภาพวาดเส้นทางโคจรดวงดาวในอวกาศ และก็ภาพวาดยานอวกาศต่างๆ(หรือยูเอฟโอ UFO) รวมถึงสิ่งก่อสร้างชิ้นใหญ่ๆที่คนภายในเดี๋ยวนี้ ยังจำเป็นต้องตลึงในความรู้ความเข้าใจของคนภายในสมัยนั้น แล้วพวกเขาใช้อะไรสร้างด้วยเหตุว่าปัจจุบันนี้การที่พวกเราจะสร้างของอะไรใหญ่มหึมา พวกเราก็จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์มาช่วย แม้กระนั้นคนภายในสมัยเก่าคิดได้อย่างไร แล้วเพราะเหตุใดในขณะนี้เพราะเหตุไรถึงไม่หลงเหลือหลักฐาน ของการผลิตข้าวของพวกนั้นเอาไว้บ้าง ได้แก่การจารึกลงในแผ่นหินฯลฯ ทดลองเล่นสลอต แล้วมนุษย์ดาวอื่นเคยติดต่อกับพวกเราจริงไหม เนื่องจากจากภาพวาดโบราณมาก (ทดลองค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวกับ Ancient Aliens มอง) หรือนั้นบางทีก็อาจจะเป็นเพียงแค่สิ่งที่มนุษย์จินตนาการขึ้นมา ดังเช่นเขาบางทีอาจจะมองเห็นผีแต่ว่าไม่ทราบ ก็เลยเอามาวาดเป็นภาพจากที่ได้ดู อารยธรรมโบราณที่เคยสร้างเอาไว้อาทิเช่นเรือบินโบราณต่างๆแล้วมนุษย์ในแต่ก่อนเอง ที่วาดภาพตนเองขึ้นมาตามผนัง ถึงมีรูปลักษณ์ที่แปลก ซึ่งนี้ก็ทำให้คนปัจจุบันเห็นว่า สิ่งนั้นก็บางทีอาจเป็นมนุษย์ดาวอื่นก็เป็นไปได้ แต่ว่าอันที่จริงแล้วรูปพวกนั้นบางทีก็อาจจะเป็นสิ่งมีชีวิตบนโลก (บางสายพันธ์) ที่ปรับปรุงไปแล้วก่อนหน้า ด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำก็เป็นไปได้…
-
Recent Posts
Archives
Categories
Tags
กิจการอวกาศ ขยะอวกาศ จรวด จูปิเตอร์ 5 ดวงจันทร์ ดวงจันทร์แกนีมีด ดวงอาทิตย์ ดาวบริวาร ดาวพฤหัสบดี ดาวพุธ ดาวยูเรนัส ดาวศุกร์ ดาวหาง ดาวอังคาร ดาวเกตุ ดาวเคราะห์ ดาวเคราะห์แคระ ดาวเทียม ดาวเนปจูน ดาวเสาร์ ต่างดาว ทฤษฎี ทฤษฎีทางดาราศาสตร์ นักบินอวกาศ นักวิทยาศาสตร์ นาซา บิกแบง ยานสำรวจ ยานอวกาศ ยูโรปา ระบบสุริยะ ลี้ลับ วัตถุขนาดใหญ่ สำรวจอวกาศ ห้วงอวกาศ อวกาศ อาคันตุกะ เอเลี่ยน แม่เหล็กไฟฟ้า แรงโน้มถ่วง แอมัลเธีย โบราณ โลก ใจกลางระบบสุริยะ ไททัน